พามาชมสีสันและความน่ารักของ "นกจาบคาเคราน้ำเงิน"
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวพามาชมสีสันและความน่ารักของนกจาบคาเคราน้ำเงิน เสียงร้องแหบและทุ้มต่ำ "ฮแอ่ว-ฮแอ่ว" และ "แอ่ว-แอ่ว-แอ่ว"
เสียงร้องแหบและทุ้มต่ำ “ฮแอ่ว-ฮแอ่ว” และ “แอ่ว-แอ่ว-แอ่ว” ที่คุ้นหู เป็นเสียงร้องของนกจาบคาเคราน้ำเงิน ดังก้องไปทั่วบริเวณขานรับกันไปมาระหว่างพ่อแม่และลูกนก ที่ค่อย ๆ โผล่ออกมาจากปากโพรงเพื่อรอรับอาหาร ซึ่งพ่อและแม่นกต่างก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาป้อนอาหารลูกน้อยที่อยู่ในโพรงดิน
นกจาบคาเคราน้ำเงิน ถูกจัดให้เป็นนกจาบคาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นนกประจำถิ่น พบบ่อย จุดเด่นคือ มีขนหยาบจากอกถึงคอสีฟ้าแกมเขียว มักทำรังเป็นโพรงดินวางไข่และอาศัยอยู่ในโพรงเป็นเวลาหลายเดือน
ไข่ที่ถูกฟักเป็นตัว จะมีพ่อแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
จนลูกนกบินได้และออกจากโพรงไป แต่หากในระหว่างนั้นโพรงถูกรบกวนจากสัตว์ผู้ล่าหรือหากพ่อแม่นกถูกรบกวนจนรู้สึกไม่ปลอดภัย ก็จะเป็นอันตรายต่อลูกนกเป็นอย่างมาก เนื่องจากพ่อแม่จะทิ้งรังและลูกนกไป ทำให้ลูกนกอดอาหารและตายไปในที่สุด ดังนั้นนักถ่ายภาพจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะนั่นหมายถึงชีวิตของสัตว์หนึ่งชีวิตหรือหลาย ๆ ชีวิตที่ต้องสูญเสียไป หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
นกจาบคาเคราน้ำเงิน พบได้ในป่าดิบ ที่ราบถึงความสูงถึง 2,200 เมตร ผสมพันธุ์ระหว่างเดือน มีนาคม-พฤษภาคม วางไข่ครั้งละ 4-6 ฟอง ใช้ระยะเวลาในการฟักไข่ 14-15 วัน
อ้างอิง : คู่มือดูนกหมอบุญส่ง เลขะกุล นกเมืองไทย และหนังสือนกในเมืองไทย เล่ม 2 รศ.โอภาส ขอบเขตต์
บทความ/ภาพถ่ายโดย : นายวิศรุต ธรรมสรางกูร เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการและจัดการทรัพยากร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว