องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือน 5 ประเทศในยุโรป ไข้นกแก้วระบาด
WHO องค์การอนามัยโลก เตือน 5 ประเทศในยุโรป เตือนไข้นกแก้ว หรือ โรคซิตตาโคซิสเป็นโรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากการสัมผัสกับนก
โรคซิตตาโคซิส (Psittacosis) หรือโรคไข้นกแก้ว
โรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia Psittaci ผู้ป่วยมักจะมีอาการไม่รุนแรงมาก เช่น เป็นไข้ ปวดศีรษะ ไอแห้ง ปวดกล้ามเนื้อ อีกทั้งโรคไข้นกแก้วนี้ ยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคปอดบวม หากผู้ป่วยไม่ได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิด สามารถทำให้เสียชีวิตได้
องค์การอนามัยโลก (WHO) โพสข้อความระบุว่าเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาว่า เกิดการระบาดของโรคซิตตาโคซิส (Psittacosis) หรือโรคไข้นกแก้ว ส่งผลกระทบต่อผู้คนที่อาศัยอยู่ในหลายประเทศในยุโรปมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย
อาการของโรคไข้นกแก้วมักจะไม่รุนแรง มีส่วนคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ ผู้ป่วยจะมีไข้และหนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และไอแห้ง ๆ แต่หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้รับการรักษา ความเจ็บป่วยอาจลุกลามไปสู่โรคปอดบวมขั้นรุนแรง การอักเสบของหัวใจที่เรียกว่าเยื่อบุหัวใจอักเสบ โรคตับอักเสบ และแม้แต่อาการบวมของสมอง
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention) ระบุว่ามนุษย์สามารถติดโรคซิตตาโคซิสได้จากการสูดดมฝุ่นหรือสารคัดหลั่งจากนกที่ติดเชื้อ และอาจป่วยได้หากถูกนกกัด หรือหากจะงอยปากของนกสัมผัสกับจะงอยปากของมนุษย์