เมื่อค่ำวันที่ 21 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจในพื้นที่ ม.6 ต.ลำสามแก้ว อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อนางสาวแตงโม (สงวนนามสกุล) วัย 17 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณหน้าผาก และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล หลังถูกไล่ยิงกลางถนนโดยชายวัย 25 ปีซึ่งเกิดความเข้าใจผิดระหว่างรับประทานอาหารในร้านหมูกระทะ
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต พบว่าก่อนเกิดเหตุ น.ส.แตงโมไปรับประทานอาหารกับกลุ่มเพื่อนในร้านหมูกระทะแห่งหนึ่ง โดยมีนายสปาย แก้มโสม อายุ 25 ปี และภรรยา นั่งอยู่ในร้านเดียวกัน ระหว่างนั้นนายสปายเกิดความไม่พอใจ เข้าใจผิดว่าน.ส.แตงโมจ้องหน้าเมียตนเพื่อหาเรื่อง ทั้งที่ความจริงผู้เสียชีวิตเป็นคนสายตาสั้น จึงต้องเพ่งมองสิ่งต่าง ๆ เป็นเวลานาน
เมื่อเพื่อนของน.ส.แตงโมเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงรีบพากันออกจากร้านด้วยรถจักรยานยนต์ แต่นายสปายไม่ลดละ กลับขี่รถตามกลุ่มผู้ตายพร้อมภรรยา และใช้อาวุธปืนยิงใส่ถึง 4 นัด หนึ่งในกระสุนพุ่งเข้าเจาะหน้าผากของน.ส.แตงโม เป็นเหตุให้เธอเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่เกิดเหตุทันทีหลังรับแจ้ง เร่งรวบรวมหลักฐาน สอบปากคำพยานโดยรอบ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่อย่างละเอียด จนนำไปสู่การระบุตัวผู้ก่อเหตุคือ นายสปาย แก้มโสม
ล่าสุด ศาลจังหวัดธัญบุรีได้อนุมัติหมายจับนายสปายในข้อหาหนัก ได้แก่
พันตำรวจเอก สหรัฐ มั่งมี ผู้กำกับการ สภ.คูคต เปิดเผยว่า จากคำให้การของพยานหลายปาก ยืนยันตรงกันว่าสาเหตุเกิดจากการเขม่นมองหน้ากันในร้านหมูกระทะ โดยนายสปายได้ยืมรถจักรยานยนต์ของเพื่อน อ้างว่าจะไปซื้อบุหรี่ ก่อนขี่ตามกลุ่มน้องแตงโมแล้วก่อเหตุ
แม้จากการตรวจสอบเบื้องต้นจะไม่พบประวัติอาชญากรรมของนายสปาย แต่พฤติกรรมการลงมือในครั้งนี้ถือว่าโหดเหี้ยม และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยหลังหลบหนี ยังมีรายงานว่านายสปายได้ส่งข้อความหาเพื่อนในลักษณะท้าทายเจ้าหน้าที่ ระบุว่า "จะไม่มอบตัว ไม่มีอะไรจะเสีย เพราะไม่มีพ่อแม่แล้ว"
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการไล่ล่าตัวผู้ต้องหาอย่างเร่งด่วน โดยได้ระดมกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั้งในเขต อ.ลำลูกกา และ อ.คลองหลวง รวมถึงเชิญบุคคลใกล้ชิดผู้ต้องหามาสอบปากคำเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากคาดว่าผู้ต้องหายังพกพาอาวุธปืนและอาจมีแนวโน้มต่อสู้ขัดขืน