เศร้า สาเหตุ "ดาบตำรวจ EOD" ยิงตัวเองดับในแฟลตต่อหน้าแฟนสาว

จากกรณีเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 มีนาคม 2568 ร.ต.อ.จักรกฤช สุวรรณวงศ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุตำรวจยิงตัวตายในแฟลต ซอยวิภาวดีรังสิต 40/2 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.มารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการ สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

 

 

 

จุดเกิดเหตุเป็นอาคารพักอาศัย 5 ชั้น ภายในห้องชั้น 2 พบศพ ด.ต.ธนวิน น้อยกำเนิด หรือ "เอฟ" อายุ 39 ปี ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ กลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.สปพ. (EOD) นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนพื้นห้อง สวมเสื้อโปโลแขนสั้นสีเขียวและกางเกงขายาวสีน้ำเงินเข้ม มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่ขมับซ้ายทะลุขวา โดยพบปืนตกอยู่ข้างมือซ้าย

น.ส.นก (สงวนชื่อและนามสกุล) แฟนสาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีอาชีพเป็นพยาบาล ร่ำไห้อยู่ใกล้ศพ ให้การว่าตนคบหากับผู้ตายมา 2-3 ปี ก่อนเกิดเหตุผู้ตายนอนเล่นอยู่บนเตียง ขณะที่ตนนอนอยู่บนพื้นห้อง จู่ๆ ผู้ตายก็ใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง ด้วยความตกใจจึงรีบขอความช่วยเหลือ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ศูนย์เอราวัณมาถึงและพยายามทำ CPR เพื่อยื้อชีวิต ก็ไม่สามารถช่วยไว้ได้

 

ระหว่างการชันสูตรมีผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานของผู้ตายเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผู้เสียชีวิตประสบภาวะเครียดและมีอาการซึมเศร้า เนื่องจากปัญหาส่วนตัวมานานประมาณ 2 เดือน ผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งย้ายงานจากภาคสนามที่มีความกดดันสูง มาอยู่ในตำแหน่งธุรการ เพื่อช่วยลดความเครียดและให้โอกาสในการฟื้นฟูสภาพจิตใจ

ผู้บังคับบัญชาของผู้ตายระบุว่า ด.ต.ธนวินเป็นตำรวจที่ดี มีเพื่อนร่วมงานรักใคร่ ก่อนหน้านี้เขามีปัญหาครอบครัวจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า การเปลี่ยนงานมาฝ่ายธุรการก็เพื่อให้เพื่อนร่วมงานช่วยดูแลและไม่ให้คิดมาก โดยปกติวันนี้ผู้ตายต้องไปทำงานตามปกติ แต่กลับไม่ไป กระทั่งมาทราบข่าวร้ายในช่วงบ่าย

 

 

นอกจากนี้ ผู้ตายเคยโพสต์ในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการวางแผนแต่งงานกับแฟนสาวในวันที่ 23 มีนาคมนี้ แต่ภายหลังกลับลบโพสต์ดังกล่าวออก แม้พิธีแต่งงานยังไม่ได้ถูกยกเลิก จึงยังไม่ชัดเจนว่าสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุสลดหรือไม่

ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุและญาติของผู้ตาย เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ และประสานญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป