อีกประเด็นที่น่าสนใจในประเทศจีน หลังจากที่ ครอบครัวหนึ่งได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเช่าที่ตกแต่งสวยงามในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน แต่เพียงสามเดือนต่อมา ลูกสาววัย 7 ขวบของบ้านได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาการป่วยอาจเกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศภายในบ้าน เนื่องจากบ้านเพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567
หลังจากนั้นครอบครัวนี้ได้ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการทดสอบคุณภาพอากาศ ผลตรวจพบว่าปริมาณฟอร์มาลดีไฮด์อยู่ในระดับ "เกินมาตรฐาน" ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ในช่วงแรก เจ้าของบ้านตกลงที่จะยกเลิกค่าเช่าและจ่ายค่าชดเชยเพิ่มเติม แต่ไม่กี่วันต่อมา เจ้าของบ้านกลับเปลี่ยนใจและปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว
ด้านผู้เป็นแม่จึงดำเนินการสืบสวนเพิ่มเติม และพบว่าฝ่ายจัดการทรัพย์สินแจ้งว่าบ้านหลังนี้ได้รับการปรับปรุงในเดือนมีนาคมและเสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2567 ซึ่งหมายความว่าครอบครัวนี้ย้ายเข้าอยู่เพียงหนึ่งเดือนหลังจากการปรับปรุง แต่เจ้าของบ้านอ้างว่าการปรับปรุงเสร็จสิ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว
เพื่อยืนยันข้อเท็จจริง ครอบครัวนี้จึงตรวจสอบคุณภาพอากาศอีกครั้งในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 และพบว่าปริมาณไซลีนสูงเกินมาตรฐานถึง 5 เท่า รวมถึงสารอินทรีย์ระเหยง่าย (TVOC) ที่เกินมาตรฐานถึง 4 เท่า ด้วยหลักฐานที่ชัดเจนนี้ เจ้าของบ้านจึงประกาศว่าจะแก้ไขปัญหาผ่านกระบวนการทางกฎหมาย แต่ไม่ได้ให้ข้อเสนอเพิ่มเติมแต่อย่างใด
เนื่องจากสภาพอากาศภายในบ้านมีมลภาวะเกินมาตรฐานอย่างร้ายแรง ครอบครัวดังกล่าวจึงไม่สามารถอาศัยอยู่ต่อไปได้ พวกเขาหวังว่าจะได้รับเงินคืนค่าเช่าและเงินมัดจำรวม 9,000 หยวน หรือ ประมาณ 41,800 บาท
รวมถึงค่าทดสอบคุณภาพอากาศและค่าขนย้าย รวมเป็นเงิน 12,000 หยวน หรือ ราวๆ 55,800 บาท ส่วนค่ารักษาพยาบาลของลูกสาว ทางครอบครัวตั้งใจจะเก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก soha