กลายเป็นเรื่องที่สะเทือนใจในโลกออนไลน์ เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งออกมาเผยเหตุการณ์ที่ หลานสาววัยอนุบาล 3 ถูกรุมแกล้งจนถึงขั้นนิ้วมือขาด แต่สิ่งที่เจ็บใจกว่ากลับเป็น คำพูดของพ่อแม่เด็กที่ก่อเหตุและท่าทีของคู่กรณีที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ขณะหลานสาวของผู้โพสต์เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 เธอถูกเพื่อนร่วมชั้นทั้งเด็กชายและเด็กหญิงช่วยกัน ดึงตัวไปใกล้พัดลม แล้วเกิดการยื้อกัน ก่อนที่เด็กกลุ่มดังกล่าว ตั้งใจปล่อยมือ ทำให้เธอล้มไปโดนใบพัดลมจน นิ้วขาด
โชคดีที่แพทย์สามารถต่อกลับได้ แต่เด็กหญิงยังคงใช้งานนิ้วมือได้ไม่เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ครอบครัวของเธอสะเทือนใจกว่านั้นคือ ท่าทีของเด็กที่ก่อเหตุที่เดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังเกิดเหตุ ครอบครัวได้พูดคุยกับผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุ แต่กลับถูกปัดความรับผิดชอบ พร้อมทั้งบอกว่า “เด็กเล่นกัน” และท้าทายให้ไปฟ้องร้องเอง
ทางโรงเรียนได้ให้คำมั่นว่าจะ รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ค่าทำแผล และค่าห้องพักฟื้น โดยขอให้ครอบครัวส่งหลักฐานค่าใช้จ่ายมาให้ อย่างไรก็ตาม เมื่อส่งใบเสร็จไปแล้ว โรงเรียนกลับแจ้งว่า ขอผ่อนจ่าย แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีความคืบหน้า แม้ว่าปิดเทอมใกล้จะมาถึงแล้ว
นอกจากการปัดความรับผิดชอบแล้ว ผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุยังพูดในเชิงดูแคลน เช่น "ที่หมอนัดเนี่ย มันต้องเสียค่าอะไรอีกรึไง?" และ "มันไม่ต้องเสียแล้วไม่ใช่เหรอ?" ราวกับจะบอกว่า การรักษาครั้งแรกจบไปแล้ว จะมาเรียกร้องอะไรอีก
เรื่องนี้สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้ที่ได้รับรู้และจุดประเด็นเกี่ยวกับ ความรับผิดชอบของโรงเรียนและผู้ปกครองเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นกับเด็กนักเรียน
ขอบคุณ Wasunan Phaochuad