ข่าวดี “จ่อเพิ่ม 3 อาชีพ” เข้า ม.33 เป็นเรื่องจริง สำนักงานประกันสังคมเตรียมขยายความคุ้มครองให้แก่ลูกจ้างที่ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน ดังนี้
กลุ่มลูกจ้างในกิจการเพาะปลูก ประมง ป่าไม้ และเลี้ยงสัตว์
ประโยชน์ที่จะได้รับ
1. มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เข้าถึงสิทธิประกันสังคมครบถ้วน 7 กรณี
ลูกจ้างมีหลักประกันในการดำรงชีวิต และได้รับการรักษา หากเจ็บป่วยรวมถึงมีสิทธิได้รับเงินชดเชย กรณีต่างๆ เช่น เงินค่าคลอดบุตร, เงินสงเคราะห์บุตร, เงินบำนาญชราภาพ, เงินว่างงาน, เงินทดแทนทุพพลภาพ และเงินกรณีตาย เป็นต้น
2. ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกัน
ลูกจ้างทุกกิจการได้รับความคุ้มครอง หลักประกันสังคมเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
3. คลายความกังวลในการดูแลลูกจ้าง
นายจ้างหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่ไม่คาดคิดเมื่อมีเหตุต่างๆ กับลูกจ้าง เพราะระบบประกันสังคม จะเป็นผู้รับความเสี่ยงไว้แทนนายจ้าง เช่น เงินชดเชยการขาดรายได้เมื่อเจ็บปวด
ทั้งนี้ ลูกจ้างทั้ง 3 กลุ่มอาชีพที่ได้รับขยายความคุ้มครอง จะสามารถเข้าถึงสิทธิประกันสังคม เป็นการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตอย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นการได้รับการรักษาหากเจ็บป่วย รวมถึงมีสิทธิได้รับเงินชดเชยกรณีต่างๆ เช่น เงินค่าคลอดบุตร เงินสงเคราะห์บุตร เงินบำนาญชราภาพ เงินว่างงาน เงินทดแทนทุพพลภาพ และเงินกรณีตาย เป็นต้น ด้านนายจ้างนอกจากจะลดความกังวลในกรณีที่ลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยแล้ว ยังเป็นการสะท้อนถึงการดูแล และความรับผิดชอบของนายจ้างต่อลูกจ้างอีกด้วย