เตรียมเรียก บอสพอล-ดารา แจงข้อมูล "ดิไอคอน" 16 ต.ค.นี้ พร้อมสอบเส้นเงิน
คืบหน้า ดิไอคอน กรุ๊ป - THE iCON GROUP ล่าสุด จิราพร สินธุไพร เผยเตรียมเรียก บอสพอล และ ดารา ให้ข้อมูลพร้อมสอบเส้นเงินคดีดิไอคอน 16 ต.ค.นี้
คืบหน้าเรื่อง ดิไอคอน กรุ๊ป ล่าสุดเมื่อวันที 11 ต.ค.67 นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณี The icon group ว่า พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ได้ตั้งศูนย์ร้องเรียนรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ซึ่งล่าสุดมีผู้เข้าไปร้องเรียนแล้ว 250 คน มีมูลค่าความเสียหาย 95 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในช่วงของการเก็บข้อมูลหลักฐานต่างๆ เพื่อนำไปสู่การแจ้งข้อหาในคดีใดบ้าง เช่น มีการหลอกลวงประชาชน แชร์ลูกโซ่ หรือขายตรง รวมถึงการกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่
ส่วนจะมีการยึดทรัพย์และให้เรื่องนี้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ นางสาวจิราพร ระบุว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงของการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน ซึ่งเราก็กลัวว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ทางตำรวจ บก.ปคบ.ได้ทำหนังสือถึงสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.ให้พิจารณาอายัดทรัพย์
โดยขณะนี้ ปปง.ได้เฝ้าระวังไม่ให้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ถ้ามีการขยับยักย้ายถ่ายเทแบบผิดปกติจะเข้าข่ายการฟอกเงิน จึงขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่าขณะนี้ ปปง.กำลังจับตาดูอยู่ แต่ยังไม่ถึงขั้นของการอายัดทรัพย์สินเพราะมีขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมย้ำว่าขอให้ประชาชนสบายใจได้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังทรัพย์สินและบัญชีเงินฝากแล้ว
ส่วนเรื่องการออกหมายจับดารามีส่วนเกี่ยวข้องนั้น นางสาวจิราพร ระบุว่า สตช.จะมีการเรียกอินฟลูเอนเซอร์ เข้ามาสอบปากคำ ขณะที่ สคบ.ที่ดูกฎหมายโฆษณาจะเรียก บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล และดารา ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลในวันที่ 16 ตุลาคม 2567
ภายใน 1 สัปดาห์จะทราบผลการสืบสวนข้อเท็จจริง ส่วนจะเป็นคดีพิเศษของดีเอสไอหรือไม่จะต้องมีผู้เสียหายจำนวน 300 คน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ก็ใกล้แล้ว แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช.ก็ทำงานมีประสิทธิภาพในการรับเรื่องร้องเรียนและสืบสวนข้อเท็จจริง โดย สตช.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักงานเศรษฐกิจการคลังซึ่งเป็นผู้ถือกฎหมายก็จะเข้าให้ข้อมูลกับทีมสอบสวนด้วยเช่นกัน
ส่วนกรณีคลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่ออกมา ที่บอกมีเทวดาที่ สคบ.นั้น ขอเรียนให้พี่น้องประชาชนสบายใจ ตนได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และคณะกรรมการกลุ่มดังกล่าวเป็นคนนอก เพื่อให้มีความโปร่งใสมากที่สุด