สอบปากคำเหยื่อ "ดิไอคอน" วันแรกเสียหาย 30 ล้าน ชงปปง.อายัดทรัพย์ไว้ก่อน
สอบปากคำผู้เสียหายจาก ดิไอคอน กรุ๊ป วันแรกเกือบ100 ราย ความเสียหายทะลุ 30 ล้านบาทประสาน เร่งปปง.อายัดทรัพย์เอาไว้ก่อน
ยังคงติดตามกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับคดีดิไอคอน กรุ๊ป ล่าสุดทาง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมติดตามคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ที่กองบังคับการปราบปราม พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) สำหรับคดีของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ได้ทำการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนไว้ที่ บก.ปคบ. ซึ่งในวันนี้เดินทางมาเพื่อดูว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากน้อยเพียงใด และระดมกำลังพนักงานสอบสวนจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทั้งหมดให้เข้ามาสอบสวนในเรื่องนี้ด้วย
ล่าสุดได้สอบปากคำผู้เสียหายไปแล้ว 80 ปาก มูลค่าความเสียหายกว่า 31 ล้านบาท สำหรับขั้นตอนในกลลวงในการมาทำธุรกิจ โดยผู้ถูกกล่าวหาได้มีการชักชวนให้เป็นตัวแทนขายสินค้า โดยให้เสียค่าอบรม จากนั้นเข้าสู่กระบวนการเปิดเครดิต และอัพเกรดระดับเป็นขั้นบันได เริ่มจาก 2,500 - 250,000 บาท ทำให้มีความเป็นไปได้ที่บริษัทดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจการขายตรง แชร์ลูกโซ่ หรือการหลอกร่วมลงทุน
ประเด็นดาราเป็นผู้บริหาร-พรีเซ็นเตอร์
ส่วนเรื่องดาราที่ปรากฏตามสื่อว่าเป็นผู้บริหาร หรือเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการสนับสนุนความผิดและเป็นตัวการความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายไม่มีละเว้นใครทั้งสิ้น
สิ่งแรกที่ต้องทำตอนนี้ คือสอบสวนผู้เสียหาย และรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานก่อน โดยจะใช้เวลาเร็วที่สุด ประมาณ 2-3 วัน ที่จะสามารถพิสูจน์ให้ได้ข้อเท็จจริง จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการพิจารณาข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมาย คาดว่าไม่เกินสัปดาห์ที่จะพบว่ามีความผิดในฐานใด ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการออกหมายเรียก หากไม่มาก็ออกหมายจับ
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ตำรวจประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ให้ใช้อำนาจอายัดทรัพย์เจ้าของบริษัททั้งหมดไว้ก่อน เพื่อป้องกันการโยกย้ายทรัพย์สิน ซึ่งทางผู้ถูกกล่าวหาสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าทรัพย์ดังกล่าวไม่ใช่ทรัพย์จากการกระทำความผิด แต่หากพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องและเฉลี่ยทรัพย์คืนผู้เสียหายต่อไป แต่ในส่วนของดาราที่ได้รับเงินค่าจ้างจากบริษัทดังกล่าวจะถูกอายัดทรัพย์สินด้วยหรือไม่นั้น ต้องดูว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิดหรือเป็นตัวการในการกระทำความผิดร่วมกันหรือไม่
ทั้งนี้ จากกระแสข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตจากเคสดังกล่าว จะมีการสอบปากคำทางด้านญาติผู้เสียชีวิตหรือไม่นั้น ขณะนี้ตนยังไม่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิต ต้องตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงก่อน ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์ ผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ในระบบหรือสายตรง 1599 หรือแจ้งผ่านศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ AOC หรือสามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจใดก็ได้ หรือจะมาที่บช.ก. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง