แม่ลูกดก 14 คน หวังว่าลูกๆ โตแล้วครอบครัวจะสบาย ชีวิตล่าสุดไม่อยากจะเชื่อ

หลายบ้านต้องการที่จะมีลูกเยอะๆ เพราะคิดว่าบั้นปลายชีวิตจะมีคนมาดูแล แต่หลายบ้านก็คิดผิด เช่นเดียวกับคุณแม่ลูกดึกจากเวียดนามรายนี้ ที่เธอให้กำเนิดลูกๆ ถึง 14 คน และบอกเลยว่านี่มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมของเวียดนาม 
 

ตามรายงานระบุว่า หญิงชาวเวียดนามอายุ 56 ปีรายหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในกรุงฮานอยของเวียดนาม เคยปรากฏตัวในสื่อหลายครั้งด้วยเรื่องราวการมีลูก 14 คน เป็นชาย 8 คน และหญิง 6 คน ซึ่งในบรรดาลูกๆ ของเธอ มีคนหนึ่งเสียชีวิตด้วยอาการป่วยตอนแรกเธอคิดว่าเมื่อลูกๆ เป็นผู้ใหญ่แล้วครอบครัวจะสบายขึ้น 

 

หญิงรายนี้เล่าเหตุผลที่มีลูกดกว่า เพราะเธอยุ่งกับชีวิตมาก เธอจึงไม่มีเวลาคิดเรื่องการวางแผนครอบครัว แต่ละครั้งที่เธอตั้งท้อง เธอจะมารู้ตอนที่ลูกในครรภ์โตขึ้น และตัดสินใจที่จะคลอดแทนที่จะทำแท้ง ซึ่งเมื่อเธอคลอดบุตรคนที่ 6 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาที่บ้านเพื่อเกลี้ยกล่อมและจะพาเธอไปทำหมัน แต่เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สามีของเธอก็ได้คัดค้าน

 

ด้วยความที่มีลูกมากมาย ชีวิตของหญิงรายนี้ลำบาก เธอต้องทำงานหนัก ทำงานหลายอย่างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูลูกๆ ของเธอ กระทั่งเมื่อปี 2559 สามีของเธอได้เสียชีวิตลง ทำให้เกิดความยากลำบากเพิ่มขึ้นอีก ต่อมาลูกๆ ของเธอส่วนใหญ่โตขึ้นแล้ว โดย 6 คนในจำนวนนั้นเริ่มต้นครอบครัวของตัวเองแล้ว ทำให้หญิงรายนี้มีหลานอีก 7 คน และเหลนอีก 6 คน

จากคำที่หลายคนคาดหวังว่าจะให้ลูกหลานมาดูแลยามแก่เฒ่า แต่ชีวิตของเธอนั้นยิ่งกว่าละคร เพราะเธอต้องตกอยู่ในสภาพที่มีใบหน้ามืดมนและเศร้าโศกสารภาพทั้งน้ำตาว่า "โศกนาฏกรรมในชีวิตของฉันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น"

 

ก่อนหน้านี้ เธอเคยเผยอย่างมีความสุขว่าลูกสาวคนโตเพิ่งกลับจากการไปทำงานใช้แรงงานที่รัสเซีย เธอ ลูกสาว และลูกสะใภ้ร่วมทุนกันเปิดโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเล็กๆ เพื่อหาเลี้ยงชีพ แต่แม้จะถูกเรียกว่าโรงงาน แต่จริงๆ แล้ว โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของเธอเป็นอาคารชั่วคราวที่ทำจากแผ่นสังกะสีกลางทุ่งนาบนพื้นที่ร้าง

โดยโรงงานมีจักรเย็บผ้า 6 เครื่อง แต่ไม่ได้ใช้งานต่อเนื่องเพราะลูกๆ ของเธอจะได้รับงานเฉพาะบางช่วงของปีเท่านั้น นี่คือความหวังอันยิ่งใหญ่ของผู้เป็นแม่อย่างเธอ เพราะโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งนี้ทำให้ลูกๆ ของเธอมีงานที่เธอเรียกว่า "ดีและช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้" แต่เธอไม่คาดคิดว่าความขัดแย้งระหว่างลูกๆ ของเธอจะเกิดขึ้นบ่อยขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ก่อตั้งโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า เรื่องนี้ทำให้แม่อย่างเธอรู้สึกเศร้าใจ

 

"ฉันอยากให้ลูกคนโตดูแลน้องๆ ช่วยกันทำธุรกิจ และพยายามเอาชนะความยากลำบากทั้งหมด แม่ต้องผ่านความยากลำบากมาหลายปี ไม่มีแม่คนไหนอยากพูดจาแย่ๆ เกี่ยวกับลูกๆ ของตัวเอง แต่หวังแค่ว่าลูกๆ จะเปลี่ยนพฤติกรรม และลูกคนโตก็ไม่ควรอิจฉาลูกคนเล็ก การเป็นพี่ชายหรือพี่สาวควรเป็นแบบอย่างในการปกป้องน้องๆ

แต่บางทีความปรารถนาของฉันก็ไม่มีวันเป็นจริง ตอนนี้ลูกๆ ไม่คิดถึงความรักระหว่างพี่น้องอีกต่อไป ฉันหวังว่าเมื่อลูกๆ ได้ยินเรื่องราวของฉัน พวกเขาจะเข้าใจชีวิตของแม่ผู้ทุกข์ยากเช่นฉัน ฉันหวังว่าลูก ๆ ของฉันจะนึกถึงสมัยที่พวกเขายังเด็กๆ และความยากลำบากที่แม่เจอ เพื่อดูแลกัน" ผู้เป็นแม่ เล่าทั้งน้ำตา

 

ปัจจุบันชีวิตของแม่ลูกดึกรายนี้เธอยังคงเป็นกำลังหลักของบ้าน นอกจากลูกสาวและลูกสะใภ้ที่ทำงานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแล้ว ลูกคนอื่นๆ ของเธอก็ยังไม่มีงานที่มั่นคง ซึ่งปัจจุบันลูกของเธอ 4 คน ต้องรับโทษจำคุกฐานขโมยทรัพย์สิน ลูกสาว 2 คน หย่าร้าง คนหนึ่งกลับมาอยู่กับแม่ อีกคนหลังแยกทางกับสามี ก็มาทิ้งลูกเล็กไว้ในความดูแลของเธอ 

 

อย่างไรก็ตาม เธอยังคงทำงานหนักทุกวันโดยลำพัง ทำงานทุกประเภทเพื่อหาเงินมาดูแลลูกเล็กๆ 2 คน หลาน 1 คน และลูก 4 คนในคุก ซึ่งตอนนี้ความปรารถนาสูงสุดตลอดชีวิตของเธอคือการเห็นลูกๆ รักกัน สอนกัน และทำสิ่งต่างๆ เพื่อดูแลชีวิตของตนเอง