พ่อแม่เศร้าลูกสาว 8 ขวบ หายตัวปริศนา ก่อนพบร่างในท่อสระว่ายน้ำโรงแรมดัง
ครอบครัวใจสลาย ลูกสาว 8 ขวบ หายตัวปริศนา ก่อนพบร่างในท่อสระว่ายน้ำโรงแรมดัง พ่อแม่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 36 ล้าน
เกิดโศกนาฏกรรมของเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ที่เสียชีวิตขณะกำลังเล่นน้ำในสระว่ายน้ำของโรงแรมในเมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งเจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะพบและนำร่างของเธอออกมาได้ ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว นำมาสู่คดีฟ้องเรียกค่าเสียหายมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 36 ล้านบาท
การตอบสนองจากทางโรงแรมล่าสุดในคดีนี้ได้ตกเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง เมื่อทางผู้บริหารจัดการโรงแรมดังกล่าว ออกมากล่าวหาว่าสาเหตุที่นำไปสู่การบาดเจ็บและการสูญเสียที่เกิดขึ้น เป็นผลจากการกระทำโดยประมาทและความละเลยของโจทก์เอง บุคคลที่ควรถูกกล่าวโทษสำหรับเหตุการณ์นี้จึงควรจะเป็นพ่อแม่ของเด็กที่เสียชีวิต ไม่ใช่ทางโรงแรม
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ตอนที่เด็กหญิงวัย 8 ขวบมาพักผ่อนที่โรงแรม DoubleTree by Hilton กับครอบครัวของเธอ อย่างไรก็ตาม ในคืนนั้นระหว่างที่ลงไปเล่นน้ำในสระว่ายน้ำที่มีน้ำไหลวนเอื่อย ๆ เด็กหญิงเกิดหายตัวไป แม่เด็กรีบแจ้งให้มีการค้นหาและไปขอพนักงานโรงแรมดูกล้องวงจรปิด แต่กลับถูกฝ่ายบริหารจัดการปฏิเสธ โดยยืนยันว่าต้องมีตำรวจอยู่ด้วยเท่านั้นตอนดูภาพวงจรปิด
ตำรวจพร้อมทีมค้นหาและกู้ภัยถูกเรียกมาจากนั้น ทางโรงแรมจึงยอมเปิดภาพวงจรปิดให้ดู โดย ทิม มิลเลอร์ จากทีมกู้ภัย Texas Equusearch เผยว่า พวกเขาเห็นศีรษะเล็กๆ ของเด็กลงไปในน้ำ และไม่ได้เห็นอีก จึงชัดเจนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นและเด็กไม่ได้โผล่ขึ้นมาจากสระอีกเลย
ทั้งนี้ เป็นเวลาหลายชั่วโมงกว่านักประดาน้ำกู้ภัยจะพบมือเล็กๆ ของเด็กหญิงอยู่ในท่อที่สระ จึงรู้ว่าร่างของเด็กถูกท่อดูดเข้าไปและติดอยู่ในนั้น ลึกเข้าไปประมาณ 6 เมตร ก่อนจะมีการทุบคอนกรีตเพื่อนำร่างของเด็กหญิงออกมา
นอกจากนี้ ทิม มิลเลอร์ ยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่พบความผิดปกติหลายอย่างขณะเข้าไปตรวจสอบสระว่ายน้ำหลังจากนั้น โดยพบว่าสระเพิ่งถูกซ่อมไม่นาน ซึ่งหากมีการเดินสายไฟผิดก็น่าจะทำให้ท่อที่ส่งน้ำ กับท่อที่ดูดน้ำเข้าไป ทำงานผิดปกติเช่นกัน
ด้าน ริชาร์ด นาวา ทนายความของครอบครัว ระบุว่า เราเชื่อว่าเด็กหญิงถูกดูดเข้าไปในรูท่อที่มีความกว้างประมาณ 12-16 นิ้ว ร่างกายน้อยๆ ของเธอถูกดูดเข้าไปและติดอยู่ในมอเตอร์ พวกเขาต้องทุบคอนกรีตและตัดท่อน้ำเพื่อนำร่างของเธอออกมา ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก
ทั้งนี้ ทนายยังชี้ว่า ก่อนที่เด็กหญิงจะจมน้ำ คาดว่าเธออาจพยายามช่วยน้องสาววัย 5 ขวบ ที่กำลังเล่นน้ำในสระเดียวกันและอาจถูกท่อดังกล่าวดูด หลังจากนั้นเด็กวัย 13 ปีอีกคนจึงเข้ามาช่วยน้องวัย 5 ขวบไม่ให้จมน้ำ จนเมื่อเหตุการณ์วุ่นวายสงบลง ครอบครัวจึงเพิ่งรู้ว่าเหยื่อหายตัวไป แม่เด็กจึงรีบขอให้มีการค้นหาทันที
หลังจากเหตุการณ์เศร้าสลดนี้ ทางครอบครัวของเด็กหญิงได้ยื่นฟ้อง Northwest Hospitality Services, LLC ซึ่งเป็นเจ้าของและบริษัทบริการจัดการโรงแรม พร้อมกับทาง Hilton Worldwide Holdings Inc. โดยอ้างว่าการเสียชีวิตดังกล่าวเป็นผลจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง พร้อมเรียกร้องค่าเสียหาย 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่จากนั้นทางโฆษกของฮิลตันได้ออกมาแสดงความเสียใจกับครอบครัว และยื่นยันว่าโรงแรมดังกล่าวมีบุคคลที่ 3 เป็นเจ้าของและเป็นผู้ดำเนินการ โดยทางฮิลตันไม่ได้เป็นเจ้าของ บริหารจัดการ หรือควบคุมการดำเนินการใดๆ ของโรงแรมดังกล่าว รวมถึงไม่ได้เป็นผู้ว่าจ้างพนักงานกับบุคคลที่ 3 แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ในการตอบโต้ทางกฎหมายล่าสุดในเดือนมิถุนายน Northwest Hospitality Services, LLC อ้างว่าพ่อแม่เด็กต่างหากที่ควรเป็นผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจากเอกสารของศาล ระบุว่า Northwest อ้างว่ากระทำโดยประมาทและความเลินเล่อของโจทก์ คือสาเหตุของการบาดเจ็บและความเสียหายที่ถูกกล่าวอ้าง
ข้อมูลจาก Daily Mail, Sky News