"กัน จอมพลัง" นำทีม แม่สาว 17 ร้อง "บิ๊กโจ๊ก" ยืนยันไม่รับเงิน และไม่ขอเจรจา
"กัน จอมพลัง" พาแม่สาว 17 เข้าร้อง "บิ๊กโจ๊ก" รอง ผบ.ตร. ยืนยันไม่รับเงิน และไม่ขอเจรจา ลั่น! จะดำเนินคดีถึงที่สุด...
วันที่ 13 ธ.ค. 2566 (วันนี้) เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. "นายกัน จอมพลัง" ได้นำทีมพาพ่อ-แม่ ของเด็กวัย 17 ปี จากกรณีได้เข้าแจ้งความว่าถูก นายสมรักษ์ คำสิงห์ ล่วงละเมิดทางเพศในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในเมืองขอนแก่น เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้กำกับคดี เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ช่วยหาความจริงว่า กรณี สาว 17 ปี ที่อ้างว่าถูก นายสมรักษ์ คำสิงห์ กระทำอนาจารเป็นการแบล็คเมล์ เรียกรับเงิน หรือมีการจัดฉากหรือไม่ และหากพบการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
ทางด้าน นายกัน จอมพลัง กล่าวว่า วันนี้ตนมาเพื่อมาหาความจริง ในฐานะคนกลาง โดยมีหลายประเด็นที่สังคมสงสัย จึงประสาน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อมาร้องกรณีเด็ก 17 มีการกล่าวหาว่าแบล็คเมล์และทำเป็นขบวนการหรือไม่ รวมถึงอยากให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย วันนี้จึงต้องมาหาความจริง หากผิดว่าก็ว่าไปตามผิด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวเสริมว่า ตนได้กำชับวางแนวทางสอบสวนกับ สภ.เมืองขอนแก่น แล้วส่วนหนึ่งและสอบปากคำเด็ก 17 เบื้องต้นแล้ว โดยเมื่อวานได้กำชับรองอธิบดีคุ้มครองเด็กให้เตรียมพร้อมสอบปากคำต่อไป แต่ยังต้องให้เวลาอีก 2-3 วัน เนื่องจากน้องยังเด็ก ต้องสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ และน้องยังอยู่ในอาการตกใจ หวาดระแวง ตื่นกลัว
โดยเมื่อวานนี้ได้สอบปากคำเบื้องต้น และได้ข้อมูลหลายส่วน หากสอบครบถ้วนแล้ว และพบความผิดเรื่องไหนบ้าง จะดำเนินการอนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป ทั้งนี้ กฎหมายทุกประเทศมีการคุ้มครองเด็ก ไม่ว่าจะทำอนาจาร หรือล่วงละเมิด ถือมีความผิดทั้งสิ้น แต่ข้อเท็จจริงคือ ทั้ง 2 คน อยู่ในห้องเดียวกัน เรื่องนี้เห็นความผิดชัดเจน ในเนื้อคดีไม่มีอะไรซับซ้อน ส่วนตัวเด็ก 17 จะสมัครใจไปด้วยเองหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาต่อว่าเป็นการพรากไปหรือพาไป แต่ถึงอย่างไรกฎหมายก็คุ้มมครองเด็กทั้งสิ้น ไม่ว่าน้องจะเต็มใจไปด้วยหรือไม่ ถือมีความผิด
ส่วนที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่าไม่รู้ว่าน้องเป็นเด็ก 17 นั้น ก็เป็นข้ออ้าง การกระทำผิดเกี่ยวกับเด็ก การละเมิดเด็ก ถือว่าผิดรุนแรง สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด โดยต้องมี พม. เข้ามาเยียวยา วันนี้ตนจะคุยกับกระทรวงยุติธรรมในเรื่องคุ้มครองพยานต่างๆ ด้วย โดยความผิดที่เห็นชัด คือ กระทำอนาจาร ส่วนเพื่อนของนักมวยที่ขี่รถจักรยานยนต์ ถ้าเจอว่ามีส่วนร่วมเรื่องนี้ จะโดนข้อหาร่วมกันพาไป โดยสาว 17 บอกว่ามีการล่วงล้ำ แต่ไม่ถึงขั้นร่วมเพศ
ส่วนเรื่องของการให้ข้อมูลของเพื่อนที่ดูขัดแย้งกับเด็ก 17 นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า
จะนำการสอบปากคำเพื่อนทั้งหมดมารวมในสำนวน แต่ส่วนใหญ่จะพิจารณาจากกล้องวงจรปิดเป็นหลัก เพราะคำพูดจะพูดอะไรก็ได้ ตอนนี้จะสอบสวนคนในงาน และคนที่โรงแรมอีกส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หลังจากการสอบปากคำเด็กเมื่อวานนี้ พบว่ามีการกระทำความผิดเรื่องพาไปเพื่อการอนาจาร และได้สั่งผู้กำกับ สภ.ขอนแก่น แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ในการสั่งปิดสถานบริการ เนื่องจากมีการเปิดให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 เข้าไปใช้บริการ เนื่องจากตามข้อเท็จจริงน้องมีการใช้บัตรประชาชนใบจริงยื่นให้กับการ์ด แล้วได้รับอนุญาตให้เข้าได้ ขณะนี้กำลังสอบปากคำเด็ก 17 ร่วมกับสหวิชาชีพ โดยหลังจากนี้จะดำเนินการสอบสวนต่อว่าเข้าข่ายความผิดฐานข่มขืนหรือไม่
ทั้งนี้ หากศาลอนุมัติหมายจับ จะดำเนินการจับกุมตามหมายจับ ถ้าออกหมายเรียกก็จะเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ส่วนทางด้าน แม่เด็ก 17 กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมกล่าวขอโทษ และบอกว่ารู้สึกผิดที่ดูแลลูกไม่ดีพอ มาวันนี้เพื่อต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกของตัวเอง ยืนยันว่าไม่ต้องการเรียกรับเงินแต่อย่างใด และไม่มีการถูกข่มขู่ อย่างไรก็ตาม หากผู้ถูกกล่าวหาขอมาเจรจา ก็ไม่ขอเจรจาด้วย และพร้อมจะดำเนินคดีถึงที่สุด