รัสเซียบุกพิพิธภัณฑ์ยูเครน ปล้นสมบัติสมัยอารยธรรมอายุเก่าแก่กว่า 2,300 ปี หนักหนาขึ้นเรื่อยๆ สำหรับสงครามที่เกิดจากการรุกรานของรัสเซียที่หวังยึดพื้นที่ในประเทศยูเครน ทว่าฝั่งยูเครนไม่ยอมถึงเกิดการสู้รบกันอย่างดุเดือด ซึ่งแม้ว่าจะมีการเจรจากันหลายต่อหลายครั้ง อีกทั้งยังมีประเทศตัวกลางมาช่วยเจรจาแต่ก็ยังยุติสงครามดังกล่าวไม่ได้เสียที
อย่างล่าสุดมีรายงานว่า ทหารรัสเซียบุกเข้าปล้นพิพิธภัณฑ์ในเมืองเมลิโตโปลของยูเครน และขโมยสมบัติสมัยอารยธรรมไซเธียนอายุเก่าแก่กว่า 2,300 ปี ที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ไป 198 ชิ้น รวมทั้งมงกุฎทองคำของกษัตริย์ชาวไซเทีย ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้าย ถลกหนังศีรษะของศัตรูมาทำเป็นผ้าเช็ดหน้า
ด้านนิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ได้นำสมบัติเหล่านี้ไปซ่อนและไม่ยอมนำออกมา แม้จะถูกปืนขู่แต่ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์คนใหม่ที่รัสเซียแต่งตั้งได้นำทหารเข้าไปเอาสมบัติ และเชื่อว่าสมบัติสมัยอารยธรรมไซเธียนเหล่านี้จะถูกย้ายไปเก็บไว้ที่ไครเมีย
ขณะเดียวกันยังมีรายงานอีกด้วยว่า ทหารยูเครนระบุว่า ดูเหมือนขวัญและกำลังใจของทหารรัสเซียที่อยู่แนวหน้า กำลังจะหมดลงทุกที เมื่อข้อความจากการดักฟังการสนทนาทางโทรศัพท์ ชี้ว่าผู้บังคับบัญชาของพวกเขาจำใจต้องยิงลูกน้องที่ขี้ขลาดทิ้ง เพื่อกระตุ้นให้พวกเขาสู้
โดยทหารนายหนึ่งได้โทรศัพท์กลับไปหาครอบครัวว่า เพื่อนๆ ของเขาพากันตื่นกลัวและต้องการให้สงครามสิ้นสุดลงเสียที ขณะที่สงครามนองเลือดที่ลากยาวมา 2 เดือน ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ แม้สูญเสียกำลังพลไปกว่า 20,000 นาย และยุทโธปกรณ์ได้รับความเสียหายหนัก ซึ่งเชื่อว่ารัสเซียจะไม่หยุดจนกว่าจะครอบครองพื้นที่ในดอนบาสได้ทั้งหมด
ภาพจาก เนชั่นทันโลก NTV World News