ลูกชาย แจ้งตำรวจจับแม่ ต้นเหตุเป็นเพราะเรียนออนไลน์

19 กันยายน 2564
29

ลูกชาย แจ้งตำรวจจับแม่ ต้นเหตุเป็นเพราะการเรียนออนไลน์ ทำครอบครัวร้าวฉาน แม่กลายเป็นนางมารร้ายในสายตาลูก

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวสุดสะเทือนใจ หลังจากคุณแม่ท่านหนึ่ง ออกมาโพสต์ข้อความแชร์ประสบการณ์ลูกเรียนออนไลน์ หลังจากที่ถูกลูกชาย ม.2 แจ้งความจับ ต้นเหตุมาจากการเรียนออนไลน์

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบุว่า.. "เรียนออนไลน์เป็นเหตุ เราสอนการบ้านลูกจนต้องตีกัน ลูกติดเกม จะฆ่ากันตาย สรุปลูกโทรแจ้งตำรวจมาจับเราเพราะโมโหจนตีลูก การเรียนออนไลน์ทำให้แม่กลายเป็นนางมารร้ายไปแล้ว"

ลูกชาย แจ้งตำรวจจับแม่ ต้นเหตุเป็นเพราะเรียนออนไลน์

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ช่อง 3 เปิดเผยคำสัมภาษณ์ของคุณแม่ว่า ลูกชายเรียนอยู่ชั้น ม.2 ไม่ยอมเข้าเรียนออนไลน์ ไม่ยอมทำงานส่งคุณครู ซึ่งครูก็ตามงานอยู่เรื่อยๆ เพราะเป็นช่วงใกล้จะสอบและปิดเทอม แต่ลูกอิดออดไม่ยอมเรียน

นอกจากนั้นตนเองเครียดสะสมเรื่องสภาพเศรษฐกิจ ปัญหาครอบครัว จึงเกิดความกดดันทำให้สติหลุดและใช้ไม้บรรทัดตีลูก ซึ่งตอนนั้นลูกพยายามเข้ามากอด แต่ตนเองก็หยิกลูกจนเป็นรอยเล็บที่แขน ขณะนั้นลูกชายกลัวแม่มาก จึงจับตนเองเข้าไปขังในห้อง และวิ่งลงไปขอความช่วยเหลือจากคนในหอพัก และโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

 

คุณแม่ยังกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่เรียนออนไลน์มา ลูกชายมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป จากเดิมเป็นเด็กดีไปโรงเรียนเจอเพื่อนใช้ชีวิตปกติ แต่ตอนนี้ตื่นมาเรียนออนไลน์ทางโทรศัพท์มือถือทั้งวัน ไม่ได้ออกไปพบใคร บางเรื่องเรียนไม่เข้าใจ เธอก็ต้องมาเรียนด้วย มาช่วยการบ้านให้ลูกจนกลายเป็นปัญหาสะสม ทำให้ลูกชายถอดใจไม่อยากเรียน

ลูกชาย แจ้งตำรวจจับแม่ ต้นเหตุเป็นเพราะเรียนออนไลน์

อีกทั้ง ลูกมีปัญหาเรื่องติดเกม ไม่ยอมเรียนออนไลน์ ส่วนหนึ่งก็เครียดเพราะคุณครูบางรายพูดจาคล้ายบูลลี่ลูกชาย เวลาส่งงานไปแล้วพอทำไม่ถูกก็ถูกครูต่อว่ากลับมา ซึ่งทำให้กระทบจิตใจลูกชาย ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกชายไม่มีโทรศัพท์มือถือ แต่เนื่องจากต้องเรียนออนไลน์จึงซื้อโทรศัพท์ไว้ให้เรียน แต่ลูกดันเอสไปเล่นเกมจนกลายเป็นติดเกม และไม่ยอมทำงานส่งอาจารย์

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอและลูกชายได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว และเชื่อว่าถ้าลูกได้ไปโรงเรียนและใช้ชีวิตตามปกติ ปัญหาแบบนี้คงไม่เกิด และเชื่อว่าครอบครัวอื่นๆ ก็น่าจะประสบปัญหาจากการเรียนออนไลน์ในลักษณะคล้ายกัน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เรื่องเล่าเช้านี้

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews