เรียกได้ว่าทำเอาแฟนๆทั่วประเทศตกใจและเป็นห่วงอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับ หนุ่ม กรรชัย ที่ได้มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดอาการเหนื่อยระหว่างจัดรายการสด ก่อนจะพูดออกมาด้วยตัวเองว่า "ผมหัวใจเต้นผิดจังหวะจริง ๆ ผมมีความรู้สึกเหมือนผมพูดออกไปแล้วผมเหนื่อย"
ต่อมา หนุ่ม กรรชัย ได้ออกมาเปิดใจถึงอาการป่วยที่เกิดขึ้น ระบุว่า รู้สึกว่ามีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 4-5 โมงเย็นของเมื่อวาน แต่ก็ยังไปจัดรายการสด ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ระหว่างการจัดรายการก็มีอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ โดยเต้นเร็วมากจนตนเองไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้ เพราะรู้เลยว่าเสียงจะสั่น และมีอาการเหนื่อย ซึ่งขณะนั้นก็ไม่ต้องการให้ผู้ชมรู้ จึงเขียนกระดาษไปบอกมดดำว่า "รู้สึกไม่สบาย"
ในระหว่างการจัดรายการก็มีการสอบถามถึงเรื่องเหตุการณ์ข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งตนเองพูดออกมาไม่ไหว และไม่ต้องการให้เกิดเดดแอร์ จึงจำเป็นต้องบอกผู้ชมออกไปว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้น และเมื่อจบรายการจึงรีบไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ และรับการรักษาพร้อมรอดูอาการ โดยหมอได้จ่ายยาและเมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงอนุญาตให้กลับบ้าน
ล่าสุด เพจ วันกรรชัย ได้มีการเปิดเผยการทำงานของ หนุ่ม กรรชัย ว่าต้องทำอะไรบ้าง กว่าที่จะมีผลงานนำเสนอข่าวที่คนชื่นชม โดยคลิปเผยให้เห็นการทำงานที่ค่อนข้างยุ่ง หลังเกิดเหตุการณ์อดีตทหารเกณฑ์ยิงที่ร้านสะดวกซื้อและกราดยิงที่โรงพยาบาลสนาม ซึ่งตัวเองนั้นก็คุยกับคนร้ายแล้ว พอรู้มาว่า อีกฝ่ายนั้นเครียดมาก เพราะสังคมมันไม่ดี แล้วก็โดนคนกดดัน น่าจะเป็นหัวหน้างานเขา อยากให้คน 2 คนมากราบเขา เขาถึงยอมมอบตัว ดังนั้นผมจึงต้องรีบเปลี่ยนประเด็น มาเล่นประเด็นนี้แทน
หลังจากนั้น หนุ่ม กรรชัย มาถึงห้องส่งพอดี นั่งเคียงข้างหมวย อริสรา พิธีกรอีกคน พร้อมกับบอกว่า พี่ได้คุยกับคนร้ายแล้ว แต่เอามาออกอากาศไม่ได้นะ จากนั้นก็สั่งให้ทีมงานเปิดคลิปให้หมวย อริสรา ฟัง บอกว่าวันนี้แทบไม่ได้อ่านข่าวเลย มัวแต่วุ่นวายเรื่องนี้ นอกจากนี้ หนุ่ม กรรชัย ได้จี้ทีมงานให้รีบเช็กข่าวว่าคนร้ายมอบตัวหรือยัง ถ้าหากมอบตัวแล้ว จะสามารถเปิดคลิปเสียงที่คุยกับคนร้ายได้ กระทั่งหนุ่ม กรรชัย รับรู้ว่าคนร้ายมอบตัว ก็มีการสั่งให้ทีมงานเตรียมคลิปที่คุยกันก่อนมอบตัวไว้นำเสนอ
นอกจากนี้ เมื่ออยู่ในช่วงพักเบรก หนุ่ม กรรชัย ก็ลงมากำกับการนำเสนอข่าวด้วยตัวเอง ทั้งสอบถามทีมงานภาคสนามว่า ไปสัมภาษณ์ใครมาบ้าง เมื่อรู้ว่าสัมภาษณ์พ่อผู้ก่อเหตุมาแล้ว ก็สั่งแบบเน้น ๆ ว่า "อย่าเปิดเผยชื่อพ่อเขานะ" รวมถึงการไม่เปิดเผยชื่อคนร้ายด้วย ก่อนที่จะดำเนินรายการโหนกระแสต่อ เรียกได้ว่าเห็นแล้วเหนื่อยแทน เป็นการทำงานอย่างมืออาชีพจริงๆ