ทนายตั้ม เตรียมแถลงวันนี้ หลังลุงพลถูกหมายจับ 3 ข้อหา คดีน้องชมพู่
ทนายตั้ม หรือ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เตรียมแถลงวันนี้ หลังศาลอนุมัติหมายจับลุงพล 3 ข้อหา คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ยืนยันยังเหมือนเดิม แต่อาจจะเปลี่ยนแปลงสถานที่
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 64 จากกรณีที่ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ถูกศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติหมายจับคดีฆ่าน้องชมพู่ เพราะมีหลักฐานพยานชัดเจน โดยชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องขออำนาจศาลจังหวัดมุกดาหาร พิจารณาออกหมายจับใน 3 ข้อหา คือ 1.พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร , 2. ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย 3.กระทำการใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตร หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
ซึ่งศาลพิจารณาแล้วจึงอนุมัติหมายจับที่ 53/2564 ลงวันที่ 1 มิ.ย. 2564 สำหรับหลักฐานที่ตำรวจใช้ในการขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับครั้งนี้ คือหลักฐานบริเวณจุดพบร่าง ได้แก่ กางเกง รองเท้า เส้นขนจำนวน 3 เส้น ที่ตรวจดีเอ็นเอ จนสามารถระบุได้แล้วว่าเป็นของใคร รวมถึงเส้นผมน้องชมพู่ที่ถูกสับ 36 เส้น และคำให้การของพยานแวดล้อมทั้งหมด
ในเวลาต่อมาทาง ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ซึ่งเป็นทีมทนายความของนายไชย์พล ได้แจ้งผ่านไลน์สั้นๆเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า "วันนี้ (1 มิ.ย.) ผมยังไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องลุงพลนะครับแต่พรุ่งนี้ (2 มิ.ย.) แต่พรุ่งนี้ 10 โมงเช้าผมจะให้สัมภาษณ์ ขอให้ชัดเจนก่อนว่าออกหมายจับจริง" และล่าสุดวันที่ 2 มิ.ย. 64 ทนายตั้ม ได้แจ้งข้อความล่าสุดเมื่อช่วงเช้าว่า "เหมือนเดิมครับ แต่อาจเปลี่ยนแปลงสถานที่ หลายสายมากรับไม่ทันเลยครับ"
ขณะที่ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.ภ.7 ได้เปิดปฏิบัติการฟ้าสางกลางกกกอก นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้าทำการจับกุม นายไชย์พล ตามหมายจับศาลจังหวัดมุกดาหาร โดยมีการอ่านหมายจับตามขั้นตอนกฎหมาย ที่หน้าบ้านของนายไชย์พล กระทั่งเวลาผ่านไปราว 20 นาที พ่อตาพร้อมกับลูกชายของนายไชย์พล ได้มาเปิดประตูบ้าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น แต่ยังไม่พบตัวนายไชย์พล