บุรีรัมย์ ออกคำสั่งด่วน"ปชช.อายุ18ปี"ขึ้นไปในกลุ่มเสี่ยงต้องฉีดวัคซีน
บุรีรัมย์ออกกฎเหล็ก คำสั่งด่วนที่สุด ระบุให้ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทำการประเมินความเสี่ยงโรคติดเชื้อโควิด-19 ของทางจังหวัด ยื่นต่อระบบของทางการเพื่อประเมินความเสี่ยง หากเข้าข่ายต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน ใครฝ่าฝืนมีโทษถึงติดคุก
คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่องการป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรน่า2019 ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ซึ่งมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมี ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธาน ได้ออก คำสั่งด่วนที่สุด เมื่อวันที่13 พ.ค.64 ระบุให้ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ หรือบุคคลที่มาปฏิบัติงานในจังหวัดบุรีรัมย์ และหรือพักอาศัยในจังหวัดบุรีรัมย์ ทำการประเมินตนเองตามแบบประเมินความเสี่ยงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของจังหวัดบุรีรัมย์ ยื่นต่อระบบของทางการเพื่อประเมินความเสี่ยง หากเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงต้องเข้ารับ การฉีดวัคซีน
รายละเอียดของคำสั่งมีดังนี้
คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ที่ 13/2564 เรื่องการป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ในประเทศไทยและหลายจังหวัดยังคงมีอัตราป่วยและอัตราป่วยตายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)
เพื่อให้การควบคุมสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 มาตรา 22 (7) มาตรา 34 (2) และมาตรา 45 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ข้อ 6 (1) ลงวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2563
และข้อ 7 (1) ของกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ในคราวประชุมครั้งที่ 21/2564 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564
จึงให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการโรคติตต่อจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่อง การป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564 (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 แล้วให้ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ที่ 13/2564 เรื่อง การป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564 ดังมีข้อความต่อไปนี้ข้อ 1 เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน และควบคุมโรคติตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ให้ประชาชนทุกคน ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่หรือบุคคลที่มาปฏิบัติงานในจังหวัดบุรีรัมย์ และหรือพักอาศัยในจังหวัดบุรีรัมย์ ทำการประเมินตนเองตามแบบประเมินความเสี่ยงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดบุรีรัมย์ที่กำหนดตามเอกสารแนบท้ายคำสั่งนี้ ต่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในชุมชน/หมู่บ้าน ที่ท่านพักอาศัยอยู่ โดยกระบวนการ อสม. เคาะประตูบ้าน หรือผ่านระบบออนไลน์ QR code BURIRAM IC ในฐานข้อมูลกลางจังหวัดบุรีรัมย์สำหรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือผ่านศูนย์ประสานงานรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19) ของโรงพยาบาล/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน เกี่ยวกับความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2564 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ จัดกลุ่มการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ข้อ 2 ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ/เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจพบหรืออาจตรวจพบว่าบุคคลใดหรือบุคคลดังกล่าวในข้อ 1 เป็นผู้ที่มีความเสี่ยง/อาจมีความเสี่ยงที่จะติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้เจ้าพนักงานนั้นมีอำนาจสั่งให้ผู้ที่มีความเสี่ยง/อาจมีความเสี่ยงที่จะติดโรคนั้น ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามวัน เวลา และสถานที่ซึ่งเจ้าพนักงานนั้นกำหนด เพื่อป้องกันมิให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่หรืออาจแพร่ออกไป
ข้อ 3 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 1 มีโทษตามนัยมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 2 มีโทษตามนัยมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับคำสั่งลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 โดยนายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดบุรีรัมย์