เฟรนช์ บูลด็อก สุนัขอารมณ์ดี อ่อนโยน ขี้อ้อน
หากพูดถึงสุนัขที่มีความขี้เล่น อารมณ์ดี อ่อนโยน ขี้อ้อน คงจะไม่พ้นสุนัขเฟรนช์ บูลด็อก เนืองจากสุนัขพันธ์นี้มีครบทุกอย่างที่กล่าวมา
ประวัติสายพันธุ์เฟรนช์ บูลด็อก
French bulldog (เฟรนช์ บูลด็อก) เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก ต้นกำเนิดมาจากการผสมพันธุ์ของ English bulldog กับ Boston Terriers โดยการตั้งชื่อพันธุ์คำว่า French หมายถึงประเทศฝรั่งเศส ถือเป็นแหล่งกำเนิดของเฟรนช์ บูลด็อกแต่เนื่องจากคนในสหรัฐอเมริกา และประเทศอังกฤษ มักนิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์เฟรนช์ บูลด็อกทำให้ในต่อมาถูกนิมยมเรียกสุนัขพันธุ์ เฟรนช์ บูลด็อกเป็น Frenchie (เฟรนช์ชี่) และมีชื่อเล่น คือ Clown dogs เพราะมีความขี้เล่นคล้ายตัวตลก หรือ Frog dogs เพราะตอนนั่งขาหลังของสุนัขจะกางออก
ลักษณะทางกายภาพเฟรนช์ บูลด็อก
เฟรนช์ บูลด็อก เป็นสุนัขเนื้อแน่น มีความตื่นตัวอยู่เสมอแต่ไม่ใช่เพื่อการกีฬา จัดเป็นสุนัขที่มีกล้ามเนื้อเยอะ ขนปกคลุมตัวน้อย จมูกสั้น และกระดูกหนา ซึ่งลักษณะที่สังเกตได้ง่ายคือการมีหูแบบค้างคาว เพราะหูของเฟรนช์ บูลด็อกจะมีฐานหูกว้าง และใบหูใหญ่ หางสั้น พบลักษณะตรงหรือบิดเป็นเกลียว แต่จะไม่พบลักษณะหางงอ
ภายใต้สมาคม The American Kennel Club (AKC) และ Canadian Kennel Club Standard ได้มีการระบุเกี่ยวกับน้ำหนักของ เฟรนช์ บูลด็อกนี้จะหนักไม่เกิน 28 ปอนด์ หรือ 13 กิโลกรัม โดยส่วนมากเฟรนช์ บูลด็อกจะมีน้ำหนักอยู่ช่วง 22-30 ปอนด์ หรือ 10-13 กิโลกรัม แต่องค์กร The Fédération cynologique internationale (FCI) หรือ World Canine Organization ไม่ได้จำกัดน้ำหนักที่ห้ามเกินไว้ โดยได้กำหนดไว้ว่า เฟรนช์ บูลด็อกต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 8 กิโลกรัม และห้ามเกิน 14 กิโลกรัม จะอยู่ในช่วงที่สุนัขมีลักษณะสมส่วน
ลักษณะนิสัยเฟรนช์ บูลด็อก
เฟรนช์ บูลด็อกเป็นสุนัขที่มีความอ่อนโยน ไม่ก้าวร้าว มีความเรียบร้อย โดยมีความเชื่อว่าเมื่อเลี้ยงแล้วจะมีแต่โชคดีตลอดไป ซึ่งลักษณะนิสัยเหมือนกับสุนัขพันธุ์อื่นทั่วไป คือต้องการความดูแลเอาใจใส่ ใกล้ชิดกับเจ้าของ เป็นสุนัขที่ไม่ต้องออกกำลังกายมาก แต่จำเป็นต้องพาสุนัขเดินอย่างน้อยวันละครั้ง เป็นสุนัขที่ใจเย็น เห่าน้อย เหมาะกับผู้พักอาศัยอพาร์ทเม้นท์ที่ต้องการเลี้ยงสุนัข จะเห่าก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์ตื่นเต้น เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้มีลักษณะหน้าสั้น มักมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ จึงไม่สามารถเลี้ยงภายนอกอาคารได้ จึงจำเป็นต้องให้สุนัขอยู่ในที่ร่ม หรือห้องแอร์ โดยควรระมัดระวังเมื่อสุนัขออกกำลังกายในที่อากาศร้อน หรืออากาศชื้น