รู้หรือไม่ อะไรที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมเร็วเกินคาด
”
รู้หรือไม่? อะไรที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมเร็วเกินคาด สาเหตุส่วนใหญ่มักมาจาก 'แบตเตอรี่รถยนต์' ที่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร
แบตเตอรี่รถยนต์ โดยทั่วไปมีอายุการใช้งานประมาณ 2-5 ปี แต่ทำไมบางคนถึงต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยกว่าปกติ? อะไรคือสิ่งที่ทำให้ แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ เร็วกว่าที่ควรจะเป็น? หากคุณเคยสงสัยในเรื่องนี้ บทความนี้มีคำตอบ
รู้หรือไม่ อะไรที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมเร็วเกินคาด
1. การใช้งานที่ไม่เหมาะสม
- ลืมปิดไฟ: การลืมปิดไฟหน้า ไฟหรี่ ไฟในเก๋ง หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ทิ้งไว้หลังจากดับเครื่องยนต์ จะทำให้แบตเตอรี่จ่ายไฟอย่างต่อเนื่อง จนไฟหมดและเสื่อมสภาพในที่สุด
- เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าขณะดับเครื่องยนต์: การเปิดวิทยุ แอร์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ขณะดับเครื่องยนต์ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักและเสื่อมเร็ว
- สตาร์ทเครื่องยนต์บ่อยๆ ในระยะเวลาสั้นๆ: การสตาร์ทเครื่องยนต์แต่ละครั้ง ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ค่อนข้างมาก หากสตาร์ทบ่อยๆ ในระยะเวลาสั้นๆ โดยที่เครื่องยนต์ยังไม่ทันได้ชาร์จไฟกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ ก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น
- ขับรถในระยะทางสั้นๆ เป็นประจำ: การขับรถในระยะทางสั้นๆ ทำให้ไดชาร์จทำงานได้ไม่เต็มที่ ไม่สามารถชาร์จไฟกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ได้เพียงพอ ทำให้แบตเตอรี่ค่อยๆ หมดประจุและเสื่อมสภาพ
2. สภาพแวดล้อม
- อุณหภูมิสูง: ความร้อนสูงส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ ทำให้สารเคมีภายในเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ดังนั้นการจอดรถตากแดดเป็นเวลานานๆ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว
- การสั่นสะเทือน: การขับรถบนถนนขรุขระ หรือการติดตั้งแบตเตอรี่ที่ไม่แน่นหนา ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน ซึ่งส่งผลเสียต่อแผ่นธาตุภายในแบตเตอรี่
3. ปัญหาจากระบบรถยนต์
- ระบบไดชาร์จมีปัญหา: ไดชาร์จมีหน้าที่ในการชาร์จไฟกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ขณะเครื่องยนต์ทำงาน หากไดชาร์จเสียหรือไม่ทำงาน ก็จะทำให้แบตเตอรี่ไม่ได้รับการชาร์จ และหมดไฟในที่สุด
- ระบบไฟฟ้ารั่ว: หากมีกระแสไฟฟ้ารั่วในระบบไฟฟ้าของรถยนต์ ก็จะทำให้แบตเตอรี่จ่ายไฟอยู่ตลอดเวลา แม้จะดับเครื่องยนต์แล้วก็ตาม
4. อายุการใช้งาน
- อายุแบตเตอรี่: แบตเตอรี่รถยนต์มีอายุการใช้งานจำกัด โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษา เมื่อถึงอายุการใช้งาน แบตเตอรี่ก็จะเสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติ
วิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่เพื่อยืดอายุการใช้งาน
- ตรวจเช็คระดับน้ำกลั่น: สำหรับแบตเตอรี่แบบน้ำ ควรตรวจเช็คระดับน้ำกลั่นอย่างสม่ำเสมอ และเติมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่: ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่จากคราบขี้เกลือ เพื่อให้กระแสไฟไหลผ่านได้ดี
- ตรวจสอบระบบไฟชาร์จ: ควรนำรถไปตรวจเช็คระบบไฟชาร์จอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าไดชาร์จทำงานปกติ
- หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดนานๆ: หากจำเป็นต้องจอดรถตากแดด ควรหาที่ร่ม หรือใช้ผ้าคลุมรถเพื่อลดความร้อน
- ขับรถอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง: หากไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน ควรสตาร์ทเครื่องยนต์และขับรถอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่
การดูแลรักษาแบตเตอรี่อย่างถูกต้อง จะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดปัญหาแบตเตอรี่หมด ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับปัญหาการสตาร์ทรถไม่ติด และสามารถใช้งานรถยนต์ได้อย่างราบรื่น