รู้หรือไม่ อะไรที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมเร็วเกินคาด

26 มกราคม 2568

รู้หรือไม่? อะไรที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมเร็วเกินคาด สาเหตุส่วนใหญ่มักมาจาก 'แบตเตอรี่รถยนต์' ที่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร

แบตเตอรี่รถยนต์ โดยทั่วไปมีอายุการใช้งานประมาณ 2-5 ปี แต่ทำไมบางคนถึงต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยกว่าปกติ? อะไรคือสิ่งที่ทำให้ แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ เร็วกว่าที่ควรจะเป็น? หากคุณเคยสงสัยในเรื่องนี้ บทความนี้มีคำตอบ

รู้หรือไม่ อะไรที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมเร็วเกินคาด

รู้หรือไม่ อะไรที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมเร็วเกินคาด

1. การใช้งานที่ไม่เหมาะสม

  • ลืมปิดไฟ: การลืมปิดไฟหน้า ไฟหรี่ ไฟในเก๋ง หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ทิ้งไว้หลังจากดับเครื่องยนต์ จะทำให้แบตเตอรี่จ่ายไฟอย่างต่อเนื่อง จนไฟหมดและเสื่อมสภาพในที่สุด
  • เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าขณะดับเครื่องยนต์: การเปิดวิทยุ แอร์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ขณะดับเครื่องยนต์ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักและเสื่อมเร็ว
  • สตาร์ทเครื่องยนต์บ่อยๆ ในระยะเวลาสั้นๆ: การสตาร์ทเครื่องยนต์แต่ละครั้ง ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ค่อนข้างมาก หากสตาร์ทบ่อยๆ ในระยะเวลาสั้นๆ โดยที่เครื่องยนต์ยังไม่ทันได้ชาร์จไฟกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ ก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น
  • ขับรถในระยะทางสั้นๆ เป็นประจำ: การขับรถในระยะทางสั้นๆ ทำให้ไดชาร์จทำงานได้ไม่เต็มที่ ไม่สามารถชาร์จไฟกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ได้เพียงพอ ทำให้แบตเตอรี่ค่อยๆ หมดประจุและเสื่อมสภาพ

2. สภาพแวดล้อม

  • อุณหภูมิสูง: ความร้อนสูงส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ ทำให้สารเคมีภายในเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ดังนั้นการจอดรถตากแดดเป็นเวลานานๆ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว
  • การสั่นสะเทือน: การขับรถบนถนนขรุขระ หรือการติดตั้งแบตเตอรี่ที่ไม่แน่นหนา ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน ซึ่งส่งผลเสียต่อแผ่นธาตุภายในแบตเตอรี่

รู้หรือไม่ อะไรที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมเร็วเกินคาด

3. ปัญหาจากระบบรถยนต์

  • ระบบไดชาร์จมีปัญหา: ไดชาร์จมีหน้าที่ในการชาร์จไฟกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ขณะเครื่องยนต์ทำงาน หากไดชาร์จเสียหรือไม่ทำงาน ก็จะทำให้แบตเตอรี่ไม่ได้รับการชาร์จ และหมดไฟในที่สุด
  • ระบบไฟฟ้ารั่ว: หากมีกระแสไฟฟ้ารั่วในระบบไฟฟ้าของรถยนต์ ก็จะทำให้แบตเตอรี่จ่ายไฟอยู่ตลอดเวลา แม้จะดับเครื่องยนต์แล้วก็ตาม

 

4. อายุการใช้งาน

  • อายุแบตเตอรี่: แบตเตอรี่รถยนต์มีอายุการใช้งานจำกัด โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษา เมื่อถึงอายุการใช้งาน แบตเตอรี่ก็จะเสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติ

 

วิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่เพื่อยืดอายุการใช้งาน

  • ตรวจเช็คระดับน้ำกลั่น: สำหรับแบตเตอรี่แบบน้ำ ควรตรวจเช็คระดับน้ำกลั่นอย่างสม่ำเสมอ และเติมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
  • ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่: ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่จากคราบขี้เกลือ เพื่อให้กระแสไฟไหลผ่านได้ดี
  • ตรวจสอบระบบไฟชาร์จ: ควรนำรถไปตรวจเช็คระบบไฟชาร์จอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าไดชาร์จทำงานปกติ
  • หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดนานๆ: หากจำเป็นต้องจอดรถตากแดด ควรหาที่ร่ม หรือใช้ผ้าคลุมรถเพื่อลดความร้อน
  • ขับรถอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง: หากไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน ควรสตาร์ทเครื่องยนต์และขับรถอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่

 

การดูแลรักษาแบตเตอรี่อย่างถูกต้อง จะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดปัญหาแบตเตอรี่หมด ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับปัญหาการสตาร์ทรถไม่ติด และสามารถใช้งานรถยนต์ได้อย่างราบรื่น