ดื่มน้ำให้ถูกวิธีช่วยลดน้ำหนักแถมสุขภาพผิวดี
น้ำเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องดื่มเป็นประจำทุกวัน หากขาดน้ำจะเสียชีวิตภายใน 2-3 วัน ในหนึ่งวันควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
ประโยชน์ของการดื่มน้ำ
ช่วยให้สุขภาพผิวดูมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่งสดใส ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ เพราะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้าน ทำให้ดวงตาของดูสดใส มีชีวิตชีวา เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย ทำให้การไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลในร่างกายให้ผ่อนคลาย สบายใจ น้ำช่วยให้สมองทำงานได้ไวและดียิ่งขึ้น ช่วยลดการเกิดกลิ่นปาก ชะลอความแก่ ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายไม่ขาดน้ำ และทำงานได้อย่างเป็นปกติ ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่ สามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับผิวหนัง
วิธีการดื่มน้ำ
- ดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังตื่นนอน
โดยปกติแล้วร่างกายต้องการน้ำ 8-10 แก้วต่อวัน ขั้นตอนแรก เริ่มจากให้ฝึกตื่นเช้าให้เป็นนิสัย เพราะร่างกายของเรามีนาฬิกาชีวิต อวัยวะต่าง ๆ จะทำงานตามเวลาของมัน ซึ่งเราก็ต้องดื่มน้ำให้สัมพันธ์กับแต่ละช่วงเวลาด้วย เวลา 06.30-07.00 น. ให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังตื่นนอนตอนเช้าทันที ช่วงนี้เลือดในร่างกายจะมีความข้นหนืดสูง หลังจากขาดน้ำมาทั้งคืน การดื่มน้ำในตอนนี้จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี และยังช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
- ช่วงสาย ๆ ดื่มน้ำ 2-3 แก้ว
เวลา 08.00 น. ดื่มน้ำ 1 แก้ว โดยดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหารเช้า 1 ชม. ไม่ควรดื่มก่อนกินข้าวแบบทันที เพราะจะทำให้น้ำย่อยมีความเจือจางลง ทำให้ย่อยอาหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร อาจทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ
ถัดมา เวลา 09.00-11.00 น. ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ร่างกายเริ่มทำงานเต็มที่ในช่วงเวลานี้ พอทำงานเต็มที่ก็จะมีของเสียเกิดขึ้น จึงควรดื่มน้ำเพื่อชำระล้างของเสียเหล่านั้นออกไปจากร่างกาย
- ดื่มน้ำก่อนมื้อเที่ยง
เวลา 12.00 น. เที่ยงวัน ให้ดื่มน้ำ 1/2 แก้ว ก่อนรับประทานอาหาร 1 ชม. หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ จิบน้ำล้างปากได้เล็กน้อย ไม่ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ เพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง ย่อยอาหารไม่ดีเท่าที่ควร
- ช่วงบ่าย ดื่มน้ำ 2-3 แก้ว
เวลา 13.00-16.00 น. ดื่มน้ำ 2 แก้ว ไม่ต้องดื่มน้ำรวดเดียวทั้ง 2 แก้ว แต่ให้ใช้การจิบน้ำระหว่างวันไปเรื่อย ๆ เพื่อดับกระหาย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพรรณ ยิ่งใครที่นั่งทำงานในห้องแอร์ ผิวจะแห้ง หยาบกระด้างได้ง่าย จึงควรเติมน้ำให้ผิวในช่วงนี้
- ดื่มน้ำก่อนมื้อเย็น 1-2 แก้ว
เวลา 17.00-19.00 ช่วงเย็นควรแบ่งเวลาไปออกกำลังกาย และก่อนจะทานมื้อเย็น ให้ดื่มน้ำก่อนอาหาร 1 ชม. ในปริมาณ 1-2 แก้ว ถัดมาในช่วงหัวค่ำ เวลา 19.00-21.00 น. ให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว โดยใช้การจิบน้ำไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ระบบเลือด ระบบลำไส้ทำงานได้ดี
- ก่อนนอน ดื่มน้ำ 1 แก้ว
ในแต่ละวัน ควรเข้านอนเวลา 23.00 น. หรือไม่เกินเที่ยงคืน โดยก่อนจะนอน 1 ชม. ให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว เพื่อชำระล้างสิ่งที่ตกค้างในลำไส้ แต่ไม่ควรดื่มใกล้เวลานอนเกินไป เพราะจะทำให้ปวดปัสสาวะกลางดึก รบกวนการนอน ทำให้นอนหลับไม่สนิทได้
ที่มา : โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ