รู้ไหมทำไมชื่อ "เสือร้องไห้" เนื้อย่างติดมันนุ่มๆ อร่อยจนเสือหลั่งน้ำตา
เนื้อวัวย่างติดมัน ทำไมต้องเรียกว่า "เสือร้องไห้" เมนูฮิตคู่ร้านส้มตำใครไปเป็นต้องสั่ง จริงไหมอร่อยจนเสือยังต้องหลั่งน้ำตา
หากให้จัดอันดับเมนูโปรดของใครหลายๆคนเชื่อว่าต้องมี "เสือร้องไห้" อยู่ในลำดับต้นๆอย่างแน่นอน เพราะเป็นเมนูฮิตคู่ร้านส้มตำที่ไม่ว่าโต๊ะไหนก็เป็นต้องสั่ง แล้วรู้หรือไม่ทั้งๆที่เป็นเมนูเนื้อวัวย่างแต่กลับเรียกว่าเสือร้องไห้ ทำไมต้องชื่อนี้ มีที่มาอย่างไร เป็นเนื้อส่วนไหน เรามีคำตอบมาให้คุณ
สำหรับเมนู เสือร้องไห้ จะใช้เนื้อวัวบริเวณส่วนอกของวัว เป็นเนื้อส่วนที่อ่อนนุ่มมีมันปนเล็กน้อย นำมาแล่เป็นชิ้นหนาตามยาว หมักด้วยซอสปรุงรส ย่างด้วยไฟอ่อน ๆ นำมาหั่นให้พอดีคำ กินคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด ปั้นข้าวเหนียตามคำโตๆ เผลอแปปเดียวหมดจานไม่รู้ตัว
แล้วทำไมชื่อ เสือร้องไห้
มีข้อมูลว่าที่มาของชื่อนั้นมาจากเนื้อวัวส่วนที่อยู่ในอกมีกระดูกซี่โครงปิดบังอยู่ เป็นเนื้อส่วนเดียวในตัววัวที่เสือกินไม่ได้ เพราะเสือไม่สามารถแหวกซี่โครงออกได้ และหัวใหญ่เกินกว่าที่จะมุดเข้าไปกินเนื้อส่วนนี้ได้ ได้แต่ใช้ลิ้นลิ้มลองรสหวานของมันที่ติดกับเนื้อส่วนนี้ และจะต้องเหลือไว้กับซากวัวที่ถูกเสือกิน รอให้สัตว์อื่นมากิน พรานล่าเสือจึงเรียกเนื้อส่วนนี้ว่าเสือร้องไห้ เพราะหมดปัญญาจะได้กินเนื้อส่วนนี้
นอกจากนั้นก็มีความเชื่อเชิงขำขันว่า เมื่อเสือได้กินเนื้อวัวตรงส่วนนี้แล้ว ซึ่งมีความเหนียวกว่าเนื้อส่วนอื่นๆ ทำให้เศษเนื้อติดในซอกฟันเสือ แล้วเสือแคะไม่ออกหรือไม่สามารถแคะได้ จึงเป็นที่มาของชื่อ "เสือร้องไห้"
บ้างก็ว่าเพราะเนื้อส่วนนี้มันเหนียวนุ่ม อร่อย ถึงขนาดว่าเสือกินแล้วยังต้องร้องไห้ออกมา ยิ่งนำมาหมักให้นุ่มๆมีรสชาติ ย่างบนเตาถ่านหอมๆสุกกำลังพอดีจะได้เนื้อที่นุ่มชุ่มฉ่ำ กัดเข้าไปกลิ่นหอมของเนื้อวัวกับซอสก็เตะจมูก ยิ่งเคี้ยวยิ่งมีรสชาติ ปั้นข้าวเหนียวกินตามเข้าไป อร่อยเกินคำบรรยาย