ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดใจล่าสุดหลังเข้าสอบปากคำนาน 4 ชั่วโมงเบื้องต้นถูกแจ้ง 2 ข้อหา คือพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท "หนุ่ม กรรชัย" โดยตนเองให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา ซึ่งหลังนจากนี้พนักงานสอบสวนก็จะนัดหมายวันให้มารายงานตัวอีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้ พร้อมพูดถึงความรู้สึกกับหนุ่ม กรรชัย ในตอนนี้ และจะฟ้องกลับหรือไม่
ช่วงเย็นวันที่ 6 ธันวาคม 2567 ฟิล์ม รัฐภูมิ ให้สัมภาษณ์สื่อหลังเข้าสอบปากคำ ชี้แจงถึงประเด็นต่างๆ ว่า ที่ก่อนหน้านี้ "หนุ่ม กรรชัย" โทรมา 3-4 ครั้ง บอกให้ตนเองยอมรับผิดนั้น เป็นการให้ตนเองยอมรับในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ทำ ตนเองเป็นคนตรงๆ ผิดก็ยอมรับผิด แต่หากไม่ผิด ตนเองก็ไม่ยอม เรื่องที่ผ่านมาตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ที่ไม่ออกมาพูด เพราะตนเองได้พูดไปหมดแล้วตั้งแต่วันแรกที่แถลงข่าวกับสื่อมวลชน
ตนเองเคารพกฎหมายเป็นที่ 1 และทำตามกรอบกฎหมายทุกประการ แต่วันนี้สังคมไม่ฟังตนเองเลย ทำให้ตนเองตัดสินใจจะออกมาพักก่อน เหมือนทุกคดีในชีวิตตนเองที่ผ่านมา ตนเองถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปก่อน แต่สุดท้ายตนเองก็ชนะทุกคดี มีเพียงแค่คดีเดียวที่ไม่ชนะคือ คดี Pay all ที่ตนเองประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะตนเองเอาเทคโนโลยีของอนาคตมา แล้วตนเองผิดตรงไหน
ทั้งนี้ตนเองยืนยันในเจตนา ในความบริสุทธ์ใจ และในการกระทำของตนเอง ซึ่งปรากฎในคลิปเสียงทั้งหมดแล้ว
ส่วนจะดำเนินคดีกลับ "ดิไอคอน กรุ๊ป" หรือ "หนุ่ม กรรชัย" ที่แจ้งจับตนเองหรือไม่นั้น ตนเองคงไม่ทำอย่างนั้น รู้สึกเฉยๆ และความจริงจะปรากฎเอง รวมถึงไม่โกรธ "หนุ่ม กรรชัย" แต่ถ้าถามว่ายังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมหรือไม่ ตนเองขอเฉยๆ ดีกว่า ปล่อยเขาไป
ทั้งนี้ตนเองไม่ได้เครียดเรื่องนี้ แต่เครียดเรื่องอื่น เรื่องนักร้องเรียนที่ออกมาแฉตนเองมั่วๆ กล่าวหาว่าตนเองทำธุรกิจบาป กล่าวหาว่าตนเองเป็นเจ้าของโปรเจ็คไประดมทุน 60 ล้านบาท , ติดหนี้ส่วนกลางหมู่บ้าน , เกี่ยวโยงกับ ส.เล็ก และ ส.ใหญ่ , เอาชื่อตนเองไปโยงกับรัฐมนตรี , เป็นพรีเซ็นเตอร์ตู้เติมเงิน , หรือเกี่ยวข้องกับคดีตู้น้ำมัน ปลุกปั่นปลุกระดมผู้เสียหายให้มาแจ้งความตนเอง ทั้งที่เรื่องที่อีกฝ่ายกล่าวหานั้น ไม่มีเรื่องใดเป็นเรื่องจริงเลย แต่เขาคงไม่มีข้อมูล แล้วเมื่อเห็นตรงไหนมีแสงก็วิ่งเข้าหาแสง ดังนั้นคนๆ นี้ ตนเองจัดหนักฟ้องกลับแน่นอน ฝากบอกเขาไม่ต้องไปหาข้อมูลเท็จ ให้เตรียมหาเงินมาจ่ายตนเองดีกว่า
นอกจากนี้ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ตนเองโดนแบบนี้มาทั้งชีวิต ตนเองก็ไม่ได้ตกใจอะไร แต่ยอมรับว่าคดีที่เกิดขึ้นกระทบกับอาชีพของตนเอง ปัจจุบันตนเองถูกยกเลิกงานทั้งหมดตั้งแต่เป็นกระแส บริษัททัวร์ของตนเองถูกยกเลิกยาวไปจนถึงกลางปีหน้า คอนเสิร์ตช่วงคริสมาสต์และปีใหม่ก็ถูกยกเลิกเกือบ 10 งาน เสียหายกว่า 10 ล้านบาท ยอมรับว่าเสียใจ แต่ก็สู้ แล้วเดี๋ยวมาดูว่าผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร พร้อมบอกด้วยว่ามั่นใจในตัวเองมาก ว่าไม่เคยทำอะไรที่ไม่ดี ใช้ชีวิตบนทางที่ถูกต้องเสมอ