"ฟิล์ม รัฐภูมิ" พูดแล้ว รู้สึกยังไงปม "หนุ่ม กรรชัย" ลั่นตัดสัมพันธ์

06 ธันวาคม 2567
73

ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดใจความรู้สึกหลังได้ฟัง หนุ่ม กรรชัย ประกาศตัดความสัมพันธ์ ยืนยันคำเดิมไม่มีความกังวลอะไรและใช้ชีวิตปกติ

วันนี้ (6 ธ.ค 67) เวลา 11.00 น. ที่หน้ากองบังคับการปราบปราม นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม รัฐภูมิ พร้อมนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความ ได้ทางเข้าพบพ.ต.อ.เอกน เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.พ.ต.ท.สธาปน์ ปัญญาพยัค์ รองผกก.2 บก.ป.เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท จากกรณีคลิปเสียงร่วมกับน.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวฃศ์ หรือเจ๊พัช เรียกรับเงินจากบอสบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำนวน 20 ล้านบาท และหมิ่นประมาทพิธีกรรายการทีวีดัง  นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย โดย ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้เผยความรู้สึกปมหนุ่ม กรรชัย ประกาศตัดความสัมพันธ์

 

ฟิล์ม รัฐภูมิ พูดแล้ว รู้สึกยังไงปม หนุ่ม กรรชัย ลั่นตัดสัมพันธ์

ฟิล์ม รัฐภูมิ พูดแล้ว รู้สึกยังไงปม หนุ่ม กรรชัย ลั่นตัดสัมพันธ์

 

ฟิล์ม รัฐภูมิ กล่าวว่า วันนี้พบความมั่นใจมาเต็มร้อย เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด เหมือนกับที่เคยแจ้งตั้งแต่วันแรกยืนยันคำเดิมไม่มีความกังวลอะไรและใช้ชีวิตปกติ โดยหลังจากเกิดเรื่องก็ไม่ได้เคยติดต่อกับทางคุณหนุ่มกรรชัยเลย โดยวันนี้ได้เตรียมหลักฐานมาเยอะพอสมควร พร้อมย้ำว่าเป็นเรื่องของการทำพีอาร์เหมือนเดิม 

ส่วนที่คุณหนุ่ม กรรชัย ประกาศตัดสัมพันธ์ ตนเองได้ฟังแล้ว ก็รู้สึกเฉยๆ แล้วแต่คุณหนุ่ม กรรชัย และเป็นสิทธิ์ของคุณหนุ่มกรรชัย ตนยืนตามหลักความถูกต้องเสมอ

ฟิล์ม รัฐภูมิ พูดแล้ว รู้สึกยังไงปม หนุ่ม กรรชัย ลั่นตัดสัมพันธ์

 

ด้านพนักงานสอบสวน ชุดทำคดีฟิล์ม รัฐภูมิ ระบุว่าหลังจากที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ก็จะทำการแจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหาคือ พยายามกรรโชกทรัพย์ในกรณีของดิไอคอนกรุ๊ป และข้อหาหมิ่นประมาทในกรณีของหนุ่ม กรรชัย โดยรวมเป็นคดีเดียวกัน เพราะเป็นพฤติกรรมเดียวกันและหลังจากแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้น ก็จะมีการปล่อตัว และจะนัดหมายมารายงานตัวอีกครั้งหลังจากนี้อีก 15 วัน 

\"ฟิล์ม รัฐภูมิ\" พูดแล้ว รู้สึกยังไงปม \"หนุ่ม กรรชัย\" ลั่นตัดสัมพันธ์

ส่วนกรณีที่ฟิล์ม รัฐภูมิ กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมกรณีที่ตำรวจตั้งข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ตำรวจชุดทำคดี ระบุว่า จะเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมอยู่ที่คลิปเสียงซึ่งเป็นพยานหลักฐานและเป็นไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งในดุลยพินิจของตำรวจ จากพฤติการณ์มองว่า สิ่งที่มีการสนทนาในคลิปเสียงเป็นเรื่องของการข่มขู่ให้จ่ายเงิน 20ล้านบาท ไม่ได้เป็นการหลอกจึงไม่ได้เข้าข่ายพยายามฉ้อโกง แต่พนักงานสอบสวนเห็นว่า มีถ้อยคำบางอย่างมีลักษณะของการข่มขู่เพื่อให้เกิดความหวาดกลัวและให้ส่งมอบเงิน 20 ล้านบาท จึงทำให้เข้าข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และยืนยันว่า จะได้รับความเป็นธรรม 100% อย่างแน่นอน ไม่มีใครกลั่นแกล้ง ตำรวจกองปราบปรามทำงานมีมาตรฐานและไม่ได้ทำงานตามกระแส แต่ทำงานตามข้อเท็จจริง ซึ่งคดีนี้มีพยานหลักฐานไปถึงแน่นอน