วันเข้าพรรษา กับประเพณีตักบาตรดอกไม้ หนึ่งเดียวในโลก
ตักบาตรดอกไม้ เป็นประเพณีที่หาชมได้ยากมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก จัดขึ้นที่ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ในวันที่ 1-2 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชา และ วันเข้าพรรษา นั่นเอง
วันเข้าพรรษา กับประเพณีตักบาตรดอกไม้ หนึ่งเดียวในโลก
ประเพณีตักบาตรดอกไม้ วันนี้ทีมข่าวไทยนิวส์ออนไลน์ ขออาสานำความรู้เกี่ยวกับ ประเพณีไทย ที่มีเพียงแห่งเดียวในโลก นั่นคือ ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่หาชมยากในปัจจุบันนี้ ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ระหว่างวันที่ 31 ก.ค.- 2 ส.ค. 256
งานเข้าพรรษา 2566
เชิญเที่ยว งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา หนึ่งเดียวในโลก และ ถวายเทียนพระราชทาน ระหว่างวันที่ 31 ก.ค.- 2 ส.ค. 2566 ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
ร่วม “ย้อนตำนานสระบุรี สืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลก ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพรรษาพระราชทาน” เพื่อส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดสระบุรี ประเพณีหนึ่งเดียวในไทยใหญ่ที่สุดในโลกให้คงอยู่สืบต่อไป โดยมีกิจกรรมดังต่อไปนี้
วันที่ 30 กรกฎาคม 2566
- เวลา 07.30 น. จัดพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม
- เวลา 09.30 น. พิธีบวงสรวงเทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จำนวน 7 แห่ง
วันที่ 31 กรกฎาคม 2566
- เวลา 10.00 น. ช่วงเช้าพิธีถวายเทียนพระราชทาน ณ พระอุโบสถ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
- เวลา 15.00 น. จัดขบวนแห่พยุหยาตรา ขบวนรถบุปผชาติ ขบวนวัฒนธรรม ขบวนอัตลักษณ์ประเพณี ขบวนชาติพันธุ์ การแสดงต่าง ๆ และพิธีเปิดงาน
วันที่ 1-2 สิงหาคม 2566
- เวลา 09.00 น. พิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษา และพิธีล้างเท้าพระภิกษุสงฆ์ ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
- เวลา 15.00 น. พิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษา และพิธีล้างเท้าพระภิกษุสงฆ์ ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
ตักบาตรดอกไม้ สระบุรี 2566 จัดวันไหน
ซึ่งประเพณีการตักบาตรดอกไม้ของชาวพระพุทธบาท และพี่น้องชาวสระบุรีจะนำ “ดอกเข้าพรรษา” มาตักบาตรพระสงฆ์เพื่อให้พระสงฆ์ได้นำดอกไม้นั้นไปบูชารอยพระพุทธบาทอีกต่อหนึ่ง และ “พิธีล้างเท้าพระ” เมื่อพระสงฆ์ลงจากพระมณฑป ซึ่งชาวพุทธทุกคนถือว่าเป็นมงคลแก่ชีวิต ถือเป็นประเพณี “ตักบาตรดอกเข้าพรรษา” เป็นประจำของทุกปี และในวันที่ 31 กรกฎาคม ในเวลา 15.00 น. ในพิธีเปิดงาน “สืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลก ตักบาตรดอกเข้าพรรษา และถวายเทียนพระราชทานประจำปี 2566” จะจัดให้มีขบวนแห่เทียนเข้าพรรษาพระราชทาน ซึ่งภายในขบวนประกอบด้วยขบวนพยุหยาตรา และขบวนพระเจ้าทรงธรรมเสด็จขบวนรถบุปผชาติ และขบวนประเพณีท้องถิ่นของชาว จ.สระบุรี จากทั้ง 13 อำเภอร่วมในขบวน
งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา จะเริ่มขึ้นในวันที่ 31 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566 ณ. วัดพระพุทะบาทราชวรมหาวิหาร โดยกำหนดเวลาตักบาตรดอกเข้าพรรษา และล้างเท้าพระ ออกเป็น 2 ช่วง ภาคเช้าเวลา 09.00 น. และภาคบ่าย เวลา 15.00 น. จึงขอเชิญชวนทุกท่านเที่ยวงานประเพณี “สืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลก ตักบาตรรดอกเข้าพรรษา ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566 ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
สำหรับการตักบาตรดอกไม้ ของวัดพระพุทธบาทฯ จังหวัดสระบุรีนั้น จะใช้เพียง “ดอกเข้าพรรษา” หรือ “ดอกหงส์เหิน” เท่านั้น ถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงดังไปไกลทั่วโลก
ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา
ความเป็นมาของการตักบาตรดอกไม้ เชื่อว่ามาจากพุทธตำนาน ที่เมื่อครั้น พระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แห่งกรุงราชคฤห์ ทรงโปรดปรานดอกมะลิมาก ในแต่ละวันจะรับสั่งให้นายมาลาการนำดอกมะลิสดมาถวายถึง วันละ 8 กำมือ วันหนึ่งขณะที่นายมาลาการกำลังเก็บดอกมะลิ ได้พบเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์อีกจำนวนหนึ่งเสด็จออกบิณฑบาตร นายมาลาการสังเกตุเห็นพรรณรังษี ฉายประกาย รอบ ๆ พระวรกาย
ทำให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาพระพุทธองค์อย่างยิ่ง นายมาลาการตัดสินใจนำดอกมะลิที่มีไปถวายแด่ พระพุทธเจ้า พร้อมกันนั้นก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า ข้าวของทุกสิ่งที่พระเจ้าพิมพิสารทรงมอบให้เพียงเพื่อยังชีพในภพนี้เท่านั้น แต่การนำดอกไม้ถวายบูชาแก่พระพุทธองค์ สร้างอานิสงส์ได้ทั้งภพนี้และภพหน้า หากถูกประหารชีวิตเพราะไม่ได้ถวายดอกมะลิก็ยินยอม
เมื่อภรรยานายมาลาทราบความ ก็เกรงกลัวว่าจะต้องโทษที่สามีไม่ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระเจ้าพิมพิสาร ก็หลบหนีออกจากบ้านไป แต่หลังจากที่พระเจ้าพิมพิสารทรงทราบกลับพอพระราชหฤทัยเป็นอันมาก และได้ปูนบำเหน็จรางวัล ความดีความชอบแก่นายมาลาการ นับแต่นั้นมาชีวิตของนายมาลาการก็อยู่อย่างมีความสุข
คำถวายดอกไม้ธูปเทียนบูชาพระ ในวันเข้าพรรษา นี้
- อิมานิ มะยัง ภันเต ทีปะธูปะปุปผะวะรานิ
- ระตะนัตตะยัสเสวะ อะภิปูเชมะ
- อัมหากัง ระตะนัตตะยัสสะ ปูชา ทีฆะรัตตัง
- หิตะสุขาวะหา โหตุ อาสะวักขะยัปปัตติยา
คำแปล : ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญทั้งหลาย ข้าพเจ้าทั้งหลายขอบูชา ธูป เทียน และดอกไม้อันประเสริฐเหล่านี้แก่พระรัตนตรัย ขอจงเป็นผลนำมาซึ่งประโยชน์สุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนาน เพื่อให้ถึงซึ่งนิพพาน ที่ซึ่งสิ้นอาสวะกิเลสเทอญ
ขอบคุณข้อมูล : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี