Whoscall เปิดตัวฟีเจอร์ Scam Alert ศูนย์รวมข้อมูลเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพแห่งแรกในไทย

18 กันยายน 2567
1

Whoscall ผนึก 11 ภาคีเครือข่ายรัฐ-เอกชน เปิดตัวฟีเจอร์ Scam Alert ศูนย์รวมข้อมูลเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพแห่งแรกในไทย ใช้ได้ฟรีบนแอปพลิเคชัน Whoscall


กรุงเทพฯ 17 กันยายน 2567, บริษัท โกโกลุก (Gogolook) ผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อความเชื่อมั่น (TrustTech) ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Whoscall จับมือกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนเปิดตัวฟีเจอร์ ‘Scam Alert’ (เตือนภัยกลโกง) ศูนย์รวมข้อมูลสำหรับป้องกันการหลอกหลวงจากมิจฉาชีพแห่งแรกของประเทศไทย ฟีเจอร์นี้ เป็นแพลตฟอร์มฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ ที่ช่วยแจ้งเตือนภัยกลลวงและรับมือกับการหลอกลวงจากมิจฉาชีพ ออนไลน์ในรูปต่างๆ ได้อย่างทันท่วงทีและทั่วถึง

Whoscall  เปิดตัวฟีเจอร์ Scam Alert ศูนย์รวมข้อมูลเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพแห่งแรกในไทย
ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมาการหลอกลวงออนไลน์เป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อคนไทยหลายแสนคน ต่อปี สถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติระหว่างเดือนมีนาคม 2565 ถึงกรกฎาคม 2567 พบว่าความเสียหาย จากการถูกหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์มีมูลค่ารวมเกือบ 7 หมื่นล้านบาท หรือ เฉลี่ย 78 ล้านบาทต่อวัน โดยผลสำรวจเบื้องต้นจากรายงานของ องค์กรต่อต้านกลโกงระดับโลก Global Anti-Scam Alliance (GASA) ประจำปี 2567  ยังพบว่ามีคนไทยเพียง 55% ที่มั่นใจว่า รู้เท่าทันมิจฉาชีพ และ 89% เผยว่าต้องรับมือกับมิจฉาชีพ อย่างน้อยเดือนละครั้ง 

Whoscall  เปิดตัวฟีเจอร์ Scam Alert ศูนย์รวมข้อมูลเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพแห่งแรกในไทย

สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มิจฉาชีพได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อพัฒนา วิธีการหลอกลวงให้มีความแนบเนียนและก้าวล้ำมากยิ่งขึ้นด้วยการสร้างข่าวเท็จ และเว็บไซต์ปลอมอีกมากมาย นอกเหนือจากการหลอกลวงในรูปแบบเดิมผ่านการโทรเข้าและส่งข้อความสแปม

Whoscall  เปิดตัวฟีเจอร์ Scam Alert ศูนย์รวมข้อมูลเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพแห่งแรกในไทย

โดยในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ Whoscall สามารถตรวจพบสายโทรเข้าจากมิจฉาชีพได้เกือบถึง 19 ล้านครั้ง ในขณะที่กระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจ และสังคม (MDES) สามารถปิดกับเว็ปไซต์ที่บิดเบือน/หลอกลวง  จำนวนกว่า 47,000 รายการ ระหว่างเดือนตุลาคม 2566 - สิงหาคม 2567


Whoscall จึงได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน 11 องค์กร ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), สำนักงานคณะกรรมการ การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.), กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (บช.ก.), กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.),

 

บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส), บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (ทรู), บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ, บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์, กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, สภาองค์กรของผู้บริโภค, โครงการโคแฟค ประเทศไทย  (Cofact Thailand) เห็นถึงความสำคัญว่าอาชญากรรมไซเบอร์เป็นภัยคุกคามที่สำคัญซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อ ผู้บริโภคแต่รวมถึงภาครัฐ และธุรกิจด้วย

Whoscall  เปิดตัวฟีเจอร์ Scam Alert ศูนย์รวมข้อมูลเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพแห่งแรกในไทย

จึงได้เปิดตัวฟีเจอร์ ‘Scam Alert’ (เตือนภัยกลโกง) ศูนย์รวมข้อมูล เพื่อป้องกันการหลอกหลวงจากมิจฉาชีพแห่งแรกของไทยแบบรวมศูนย์ เพื่อจัดการกับข้อมูลจำนวนมาก จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ แจ้งเตือนภัยและให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการหลอกลวงที่อาจเกิดขึ้นในภาคส่วน ต่างๆ ได้รับทราบอย่างทั่วถึง

 

นายแมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ปัจจุบันประเทศไทย ประสบปัญหากับ ภัยหลอกลวงออนไลน์ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกฝ่ายต้องหันมาให้ความสำคัญ กับการเตือนภัยและการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจหลักของบริษัทโกโกลุก ที่พร้อมจะ นำเสนอเครื่องมือป้องกันมิจฉาชีพ ที่ครอบคลุมสำหรับผู้บริโภคและภาคธุรกิจและพร้อมเดินหน้าติดอาวุธ ทางปัญญาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ในการป้องกันภัยจากกลโกงให้แก่ประชาชนผ่านโครงการเพื่อสังคม เช่น โครงการ Cyber Vaccinated ที่ได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

Whoscall  เปิดตัวฟีเจอร์ Scam Alert ศูนย์รวมข้อมูลเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพแห่งแรกในไทย

อย่างไรก็ตามการป้องกันการหลอกลวง จำเป็นต้องได้รับการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ดังนั้น การเปิดตัวฟีเจอร์ Scam Alert ในครั้งนี้ นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนา แอปพลิเคชัน Whoscall ให้เป็นโซลูชันป้องกัน การหลอกลวงแบบครบวงจร เพื่อปกป้องให้ผู้ใช้งานมีความรู้เท่าทันและอยู่เหนือกลโกงของมิจฉาชีพแล้ว ยังเป็น การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่มีเป้าหมายร่วมกันในการส่งเสริมสังคมที่ปลอดภัยมั่นคง ปราศจากการหลอกลวงจากมิจฉาชีพ ให้เข็มแข็ง มากยิ่งขึ้น”

Whoscall  เปิดตัวฟีเจอร์ Scam Alert ศูนย์รวมข้อมูลเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพแห่งแรกในไทย

ศาสตราจารย์คลินิก นพ. สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) กล่าวว่า “อาชญากรรมไซเบอร์เป็นภัยคุกคามที่สำคัญ ซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคแต่รวมถึงภาครัฐและธุรกิจด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กสทช. ได้ทำงาน เชิงรุกร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรเอกชนชั้นนำเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการป้องกัน อาชญากรรม ทางไซเบอร์ของประเทศ

 

โดยได้ดำเนินการออกกฎระเบียบข้อบังคับและแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยเพื่อรับมือ กับภัยคุกคามทางไซเบอร์สำหรับภาคธุรกิจโทรคมนาคม โครงการ Scam Alert เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการ สร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยการแบ่งปันความรู้และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและ เอกชน เสริมความแข็งแกร่งให้ประชาชนได้รับข้อมูลและปกป้องจากภัยคุกคามของการหลอกลวงทางออนไลน์ ที่เพิ่มขึ้น”

บริการบนฟีเจอร์ Scam Alert 


Scam Alert เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกออกแบบให้เป็นฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์สำหรับประชาชน โดยแบ่งเป็น การเตือนภัยโดยตรงจากหน่วยงานภาครัฐและข้อมูลเตือนภัยกลโกงในรูปแบบต่างๆ จากพันธมิตรภาคเอกชน ที่สามารถใช้ได้บน แอปพลิเคชัน Whoscall โดยไม่มีค่าใช้จ่ายทั้งเวอร์ชั่นฟรีและพรีเมียม

 

  •  เตือนภัยกลโกงล่าสุด (Scam Trending Alert) - ผู้ใช้งาน Whoscall สามารถเปิดการแจ้งเตือน อัตโนมัติบนแอปพลิเคชันเพื่อรับข้อมูลแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพที่สำคัญและเร่งด่วน เช่น การแอบอ้าง หน่วยงานที่สำคัญ การหลอกลวงที่มีมูลค่าความเสียหายขนาดใหญ่และก่อให้เกิดความเสียหาย ในวงกว้างและการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลจากองค์กรภาครัฐ เช่น กองบัญชาการตํารวจ สอบสวนกลาง ตำรวจไซเบอร์ กสทช. และ สกมช. 

 

  • เตือนภัยกลโกงรู้ทันมิจฉาชีพ (Scam Education Content) – ฟีเจอร์นี้จะเป็นแพลตฟอร์ม ที่รวมความรู้เกี่ยวกับ กลวิธีการหลอกลวง และเคล็ดลับการป้องกันต่างๆ จากภาคีเครือข่ายภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เช่น การหลอกลวงด้านการลงทุน การหลอกลวงการชำระบิล การหลอกลวง ในการซื้อของ การหลอกลวงทางอีคอมเมิร์ซ รวมถึงรายงานและข้อมูลเชิงลึกจาก Whoscall และ องค์กร Global Anti-Scam Alliance (GASA)  

Whoscall  เปิดตัวฟีเจอร์ Scam Alert ศูนย์รวมข้อมูลเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพแห่งแรกในไทย

“การป้องกันการหลอกลวงเริ่มต้นด้วยการได้รับข้อมูลอย่างทันท่วงทีจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ซึ่งนอกเหนือจากผู้ใช้งานจะได้ รับทราบข้อมูลการเตือนภัย ผ่านฟีเจอร์ Scam Alert แล้ว Whoscall มีฟีเจอร์อื่นๆ เพื่อเป็นเกราะ ป้องกันความปลอดภัยเพิ่มเติม ให้แก่ผู้ใช้งานทุกคน เช่น Auto Web Checker เพื่อปกป้องผู้ใช้จากการคลิก ลิงก์ฟิชชิ่ง โดยไม่ได้ตั้งใจแบบอัตโนมัติ และ ID Security (เช็กข้อมูลรั่วไหม) เพื่อช่วยตรวจสอบความปลอดภัย ของข้อมูลส่วนบุคคลจากฟีเจอร์ที่ใช้งานได้ฟรีและแบบพรีเมียม” นายแมนวู กล่าวทิ้งท้าย

 

นอกเหนือจากผู้ใช้งานจะได้รับทราบข้อมูลการเตือนภัยผ่านฟีเจอร์ Scam Alert แล้ว ประชาชนก็สามารถใช้ เครื่องมือต่าง ๆ ที่ภาครัฐและเอกชนพัฒนาขึ้นเป็นกลไกในการจัดการกับปัญหามิจฉาชีพ อาทิ การแจ้งความ ดำเนินคดีที่ศูนย์ AOC 1441 หรือ thaipolice.go.th หรือ ผ่านทางเว็บไซต์ตำรวจสอบสวนกลางที่ https://www.cib.go.th/e-service หรือการแจ้งเลขหมายที่เป็น มิจฉาชีพต่อ กสทช. ที่ 1200 โทรฟรี หรือแจ้งที่ผู้ให้บริการมือถือแต่ละรายและช่องทางในการสื่อสารต่างๆ ขององค์กรภาคีด้วย 

 

 

เกี่ยวกับ Whoscall
แอปพลิเคชัน Whoscall เครื่องมือป้องกันการหลอกลวงทางดิจิทัลส่วนบุคคล ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้ใช้ จากการหลอกลวงในสถานการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ การสื่อสารที่เป็นอันตรายและน่าสงสัย รวมถึงสายโทรเข้า ข้อความ และลิงก์ Whoscall มีฐานข้อมูลที่ครอบคลุมมากที่สุดในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุม หมายเลขโทรศัพท์ มากกว่า 2.6 พันล้านเลขหมาย และรวบรวมลิงก์ที่เป็นอันตรายทั่วโลก

 

เพื่อสร้างฐานข้อมูล ต่อต้านการหลอกลวง ทางดิจิทัล ชั้นนำ ทีมงาน Whoscall ทุ่มเทพัฒนาเทคโนโลยีต่อต้านการหลอกลวง มานานกว่าทศวรรษ โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์ และจำลองรูปแบบการหลอกลวง เพื่อป้องกันเชิงรุก ต่อการหลอกลวงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว Whoscall เดินหน้าอย่างแข็งขัน ในการสร้างกลไกการทำงานร่วมกัน ในชุมชนของผู้ใช้ร่วมมีบทบาทในการสร้างผลลัพธ์ ทางสังคมด้วยบริการต่อต้าน การฉ้อโกงทางดิจิทัล ตั้งแต่ การให้ความรู้ การสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน

 

ไปจนถึงสร้างนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ Whoscall ได้รับการยอมรับและความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติไต้หวัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาเลเซีย ศูนย์สืบสวนและประสานงานอาชญากรรมทางไซเบอร์ของฟิลิปปินส์ หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน ของเกาหลีใต้ และรัฐบาลท้องถิ่นในญี่ปุ่น และมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 100 ล้านครั้งทั่วโลก