"ผลตรวจเด็ก14" ครั้งล่าสุดเจอเต็มๆ ทนายรัชพลเผย เหตุผลตรวจครั้งแรกไม่เจอ
เปิดผลตรวจเด็ก 14 ครั้งล่าสุด ครั้งนี้เจอเต็มๆ ทนายรัชพลเผยเหตุผลที่ครั้งแรกตรวจไม่เจอ หมอเหรียญทอง รีบโพสต์สวนทันที
หลายคนคงยังจำกันได้ กรณีสืบเนื่องจาก นพ.พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ หรือ เหรียญทอง ตบหน้าเด็ก 14 ปี หลังฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในห้องน้ำชั้น 12 ของโรงพยาบาล ก่อนจับแก้ผ้าให้ออกจากโรงพยาบาล ต่อมามีประเด็นที่เหรียญทองพบ "เฮโรอีน" ในถุงเสื้อผ้าของเด็ก14ด้วย ในขณะที่ทนายรัชพล ศิริสาคร พาแม่และเด็กวัย 14 ปี เข้าแจ้งความฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังเรียกเด็กวัย 14 ปีว่า "ไอ้กุ๊ย"
โดยก่อนหน้านี้ ทนายรัชพล ได้ชี้แจงผลการตรวจปัสสาวะเด็ก14เพื่อหาสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน ซึ่งไม่พบสารเสพติด ผ่านการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก
ล่าสุด นพ.พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา เปิดเผยทางเฟซบุ๊กถึงความคืบหน้าล่าสุดว่า ได้โปรดแชร์เรื่องด่วนที่สุดให้สาธารณชนทราบทั่วกันว่าผลการตรวจสารเสพติดพบว่า ‘ไอ้กุ๊ยเฮโรอีน’ ไม่ได้แค่สูบบุหรี่ในห้องสุขา รพ.มงกุฎวัฒนะเท่านั้น แต่มันยังเสพเฮโรอีนในคราวเดียวกันด้วย
ทั้งนี้ ผลการตรวจสารเสพติดที่ไอ้ทนายความเคยโพสต์ว่าไม่พบสารเสพติดนั้นเป็นการสร้างความเข้าใจผิดแก่สาธารณชน ซึ่งผมก็ได้โพสต์ตอบโต้ไปแล้วว่าเสพเฮโรอีน แต่อ้างผลตรวจการยาบ้ามันคนละสารเสพติด เป็นการทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด ทนายความอย่างนี้ใช้ไม่ได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งผลการตรวจสารเสพติดล่าสุดว่า พบสารเสพติดเฮโรอีนจากการตรวจไอ้กุ๊ยเฮโรอีนจริง อีกทั้งผลการพิสูจน์ผงในซองโดยกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ยืนยันว่า เป็นเฮโรอีน จำนวน 0.032 กรัม ซึ่งเป็นของไอ้กุ๊ยเฮโรอีนจริง
การชี้นำสังคมเพื่อช่วยลูกความที่ประพฤติชั่ว เพื่อปกป้องคุ้มครองบุคคลที่เป็นปัญหาสังคม เพียงแค่ต้องการจะเอาผมเข้าคุกให้จงได้นั้น แต่ควันบุหรี่พร้อมไอระเหยจากเฮโรอีนที่ไอ้กุ๊ยเฮโรอีนได้พ่นเข้าสู่ระบบปรับอากาศ คละคลุ้งไปทั่วพื้นที่ตรวจโรคผู้ป่วยนอก หรือโอพีดี ที่มีผู้ป่วยทั้งผู้สูงอายุและเด็กนั่งรอรับการตรวจจำนวนมาก
ทั้งยังคละคลุ้งเข้าสู่ห้องฉุกเฉินที่อยู่ติดกันและมีผู้ป่วยฉุกเฉินอีกจำนวนมาก ยังไม่นับรวมบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงาน
ผมขอถามว่าท่านคุณมึง ไอ้ทนายความ, อี ส.ส.(บางซื่อ) และไอ้ ส.ส.(หลักสี่) จากพรรคก้าวไกล ว่าท่านคุณมึงจะช่วยเหลือผู้เสียหาย คือผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุ เด็ก และบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับผลกระทบจากไอ้กุ๊ยเฮโรอีนที่พ่นควันบุหรี่พร้อมไอระเหยจากเฮโรอีนกันอย่างไร
หรือว่าท่านคุณมึงยังจะคุ้มครอง ‘ไอ้กุ๊ยเฮโรอีน’ ที่เป็นขยะสังคมแล้วเพิกเฉยต่อผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุ เด็ก และบุคลากรทางการแพทย์โดยไม่ใยดี…นี่คือ ‘สังคมก้าวไกล’ ใช่หรือไม่
หากผมไม่ตบ ‘ไอ้กุ๊ยเฮโรอีน’ แล้วจับแก้ผ้า สังคมโดยรวมจะรู้หรือไม่ว่า ‘ไอ้กุ๊ยเฮโรอีน’ ไม่เพียงแค่สูบบุหรี่ใน รพ.แต่มันเสพเฮโรอีนใน รพ.ด้วย อีกทั้งมันยังครอบครองเฮโรอีนอีกต่างหาก
ควันบุหรี่ผสมไอระเหยเฮโรอีน ทั้งทนายความและ ส.ส.จากพรรคก้าวไกล จะไม่ใยดีต่อผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุ เด็ก และบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้สูดดมกันถ้วนหน้าด้วยการดำเนินคดี ‘ไอ้กุ๊ยเฮโรอีน’ หรือมารดาผู้ปล่อยปละละเลยไม่เลี้ยงดูอบรมสั่งสอนบุตรซึ่งเป็นหน้าที่ของมารดาตามกฎหมายหรอกหรือ???
แม้แต่ตัวผมเอง ซึ่งเป็น ผอ.รพ.ที่เข้าไปลากตัวและจัดการ ‘ไอ้กุ๊ยเฮโรอีน’ ก็ยังสูดดมควันบุหรี่ผสมไอระเหยเฮโรอีนในขณะนั้นด้วย
ดังนั้น ผมจะยกระดับการตีโต้ตอบ ‘มารดาผู้สร้างปัญหาสังคม’ ให้รับผิดอย่างแสนสาหัส
จึงเรียนมาให้สาธารณชนทราบทั่วกันและได้โปรดแชร์ต่อๆ กันให้สาธารณชนทราบทั่วกันด้วย
พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ผู้ปราบปรามผู้กระทำความผิดสูบบุหรี่และเสพเฮโรอีนใน รพ.
21 พ.ค.67 เวลา 22.22 น."
ด้าน ทนายรัชพล ระบุทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ ว่า 21 พ.ค.67 ทนายรัชพล ศิริสาคร พาน้อง 14 พร้อมคุณแม่ แฟนน้อง 14 พบ ตร.ให้การเพิ่มเติม ซึ่ง ตร.ได้แจ้งผลตรวจยาเสพติดในร่างกาย พบสารเฮโรอีน รวมทั้งซองยา พบว่าเป็นเฮโรอีน 0.032 กรัม
จึงได้แจ้งข้อหาน้อง 14 พร้อมสอบคำให้การ ซึ่งน้องรับสารภาพและพร้อมเข้าสู่กระบวนการบำบัดต่อไป ส่วนที่ตรวจไม่พบยาเสพติดครั้งที่แล้ว เป็นการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดหลายชนิดเบื้องต้นในชั้นโรงพักเท่านั้น ขอบคุณครับ"