อัปเดตอาการ ตำรวจทางหลวง ถูกรถชนสาหัส ย้ายรักษาตัว รพ.ตำรวจ วันนี้
อัปเดตอาการ ตำรวจทางหลวง ถูกรถชนขณะปฏิบัติหน้าที่ เตรียมย้ายรักษาตัว รพ.ตำรวจ วันนี้ ขอความร่วมมือผู้พบเห็นโปรดหลีกทาง
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีรายงาน ด.ต.ปิยนันท์ สีเสื้อ ตำรวจทางหลวง ถูกรถเก๋งพุ่งชนระหว่างปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ช่วงเย็นของวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี จนทำให้ร่างของ ด.ต.ปิยนันท์ กระเด็นลอยไปไกลราว 10 เมตร ศีรษะด้านหน้ากระแทกกับพื้น ล้มหมดสติอาการสาหัส
ทางด้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้นำตัว ด.ต.ปิยนันท์ ส่งยังโรงพยาบาลพัฒนานิคม และทำการส่งตัว ด.ต.ปิยนันท์ ส่งโรงพยาบาลตำรวจ โดยเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถนำส่งโรงพยาบาลตำรวจได้ เนื่องจาก ด.ต.ปิยนันท์ มีอาการชีพจรต่ำ และทนสภาพแรงกดอากาศไม่ไหว เนื่องจากสมองบวมจากการกระทบกระเทือนอย่างหนัก จึงทำให้เฮลิคอปเตอร์วนมาลงจอดที่เดิม และมีการประเมินอาการผู้ป่วย รวมทั้งเปลี่ยนแผนที่จะนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ มาเป็นโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช อ.เมือง จ.ลพบุรี แทนนั้น
ขณะที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช เผยอาการแรกรับที่ห้องฉุกเฉิน ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง ได้แก่ กะโหลกศีรษะแตก มีเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มสมอง, กระดูกขากรรไกรบนหัก, เลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอดข้างขวา, ลูกตาข้างขวาแตก และกระดูกบริเวณน่องข้างขวาหัก แพทย์ได้ทำการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะเพื่อห้ามเลือด พร้อมทั้งใส่สายระบายเลือดในช่องอกข้างขวา และส่งเข้ารับการดูแลอย่างใกล้ชิดในไอซียูศัลยกรรมประสาทและสมอง
ล่าสุด ด.ต.ปิยนันท์ ยังคงไม่รู้สึกตัว และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่อาการทางสมองเริ่มคงที่ขึ้น สัญญาณชีพอยู่ในระดับปกติ แพทย์มีความเห็นว่าสามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางรถได้ โดยอยู่ระหว่างการประสานกับโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นต้นสังกัดในการรับผู้ป่วยไปรักษาต่อ
ล่าสุด ทางด้านเพจเฟซบุ๊ก ตำรวจทางหลวง แจ้งข่าวขอความร่วมมือทุกท่านหลีกทางให้ รถฉุกเฉินเร่งนำตัว ด.ต.ปิยนันท์ เพื่อไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลตำรวจ โดยวันนี้ (18 เม.ย. 2567) เวลา 10.00 น. ออกจากโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช โดยมีขบวนรถ 4 คัน เดินทางจากโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ออกต่างระดับสิงห์บุรีใต้ ไปทางถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าเข้า กทม. ขึ้นโทลล์เวย์ดอนเมือง (หน้าโรงกษาปณ์) ลงถ.ดวงพิทักษ์ เข้าสู่ ถ.เพลินจิต ปลายทางโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ซึ่งผู้ใดที่พบเห็นรถพยาบาลและรถตำรวจดังกล่าว ขอความร่วมมือช่วยหลบทางให้ด้วย