สาวเดินหน้าแฉ ถูก ตร.คอมมานโด ข่มขู่ขอมีสัมพันธ์ ก่อนปล่อยคลิปลับว่อนเน็ต
หญิงสาวเดินหน้าเข้า ร้องมูลนิธิ "เป็นหนึ่ง" หลังถูกอดีตแฟนเป็นนายตำรวจคอมมานโด ข่มขู่ขอมีความสัมพันธ์ด้วย ก่อนปล่อยคลิปลับว่อนเน็ต
กลายเป็นเรื่องราวที่น่าเห็นใจอย่างมาก กรณีเพจ “เป็นหนึ่ง” ได้โพสต์เรื่องราวของ หญิงสาวรายหนึ่งได้ร้องเรียนมายังเป็นหนึ่ง เพื่อขอความช่วยเหลือหลังจากเธอถูกแฟนเก่าซึ่งเป็นตำรวจคอมมานโด ข่มขู่และขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย และได้มีการปล่อยคลิปลับของเธอออกมาบนโลกโซเชียล จนเธอได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยทางผู้เสียหายก็ได้มีการไปแจ้งความเอาไว้และร้องเรียนถึงต้นสังกัดของตำรวจรายดังกล่าวกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ
โดยวันนี้ (7 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.10 น. น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ “ต้นอ้อ” จากมูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้เดินทางเข้ามาที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับผู้เสียหายเพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงกรณีดังกล่าว โดยมีรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้เข้ามารับเรื่องแล้ว
น.ส.ชลิดา กล่าวว่า หญิงสาวรายนี้ได้มีการติดต่อเข้ามามายังเพจเพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังจากที่เธอถูกอดีตแฟนนายตำรวจคอมมานโด ปล่อยคลิปลับและคลิปมีเพศสัมพันธ์ของทั้งสอง ที่ได้มีการถ่ายไว้ขณะที่ยังคบกันอยู่ ลงบนโลกโซเชียล ผู้เสียได้แจ้งว่า ก่อนหน้านี้เธอได้มีการคบหากับตำรวจนายนี้และได้มีการเลิกรากันไปในช่วงเดือนมีนาคม 2566 โดยไม่ได้มีการติดต่อกันอีก ซึ่งทั้งคู่ต่างแยกย้ายกันไปมีคนรักใหม่กันแล้ว
จนกระทั่งช่วงเดือนเมษายน 2566 นายตำรวจรายนี้ได้มีการทักมาหาเธอผ่านทาง LINE โดยได้บอกว่าต้องการให้เธอนั้นไปหา พร้อมข่มขู่ว่าถ้าหากผู้เสียหายไม่ไปพบกับเขา เขาจะนำคลิปและรูปโป๊เปลือยของตนกับเขาลงในช่องทางอินเตอร์เน็ต พร้อมส่งคลิปและรูปโป๊เปลือยดังกล่าว มาในช่องทางไลน์ส่วนตัวของหนู หลังจากนั้นตนต้องจำใจติดต่อกับเขา เพราะกลัวคำข่มขู่ดังกล่าว
หลังจากนั้นฝ่ายชายก็ได้มีการส่งข้อความลักษณะนี้มาข่มขู่ผู้เสียหายอยู่เรื่อยๆ โดยผู้เสียหายก็ได้บอกไปว่าหากยังทำแบบนี้อยู่จะร้องเรียนไปยังต้นสังกัดของเขา ซึ่งเขามีตำแหน่งเป็น ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย สังกัดกองบังคับการปฎบัติการพิเศษคอมมานโด แต่ทางฝ่ายชายไม่ยอม พร้อมทั้งข่มขู่ต่อไปอีกว่า ถ้าเอาเรื่องดังกล่าวไปร้องต่อผู้บังคับบัญชาของเขา เขาจะนำคลิปวิดีโอและรูปโป๊เปลือยขณะมีเพศสัมพันธ์กับเขาส่งให้ที่ทำงานของตนดูเช่นกัน ก่อนที่ผู้เสียหายจะพบว่าคลิปวิดีโอของเธอนั้นถูกแชร์ต่อบนแอพพลิเคชั่น VK สร้างความเสียหายให้เธออย่างมาก โดยเธอได้มีการเข้าไปแจ้งความพร้อมทั้งติดต่อไปยังต้นสังกัดแต่เรื่องกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงได้มีการมาร้องกับทางเพจเป็นหนึ่งตามที่ปรากฏ
น.ส.ชลิดา กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ สภาพจิตใจของผู้เสียหายและครอบครัวนั้นแย่มาก เบื้องต้นตนทราบมาว่าผู้เสียหายรายนี้ไม่ใช่รายเดียวที่โดนกระทำเช่นนี้จากนายตำรวจนายนี้ ตนอยากจะให้ออกมาปกป้องสิทธิ์สิทธิ์ของตัวเอง และสามารถแจ้งเข้ามาเพิ่มเติมได้ โดยในวันนี้ตนได้มีการประสานไปยังท่าน ผบ.ตร. ให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับนายตำรวจนายนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ตนไม่อยากให้มองว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ผู้กระทำผิดสมควรได้รับการลงโทษอย่างถึงที่สุด
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้มารับหนังสือในวันนี้ กล่าวว่า เรื่องนี้ท่าน ผบ.ตร. ให้ดำเนินการอย่างถึงที่สุด โดยจะมีการตรวจสอบอีกครั้งและหากพบว่ามีความผิดทางวินัยจริงก็ต้องมีการให้ออกจากราชการ โดยโดยเรื่องนี้แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัวแต่เป็นเรื่องที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างรุนแรง ขอยืนยันอีกครั้งว่าคดีนี้จะให้ความยุติธรรมกับผู้เสียหายอย่างแน่นอน และฝากไปถึงประชาชนทั่วไปหากมีการส่งต่อคลิปวิดีโอเหล่านี้ท่านก็จะถูกดำเนินคดีในส่วนของ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ คือจำคุกไม่เกินห้าปีปรับไม่เกินไม่เกิน 100,000 บาท