แฉ "ร่างทรงอยุธยา" หลอกบูชาตุ๊กตา มูลค่าความเสียหายหลายล้าน
แฉ "ร่างทรงอยุธยา" หลอกลวงให้แก้กรรมด้วยวิธีการประหลาด ล่อให้บูชาตุ๊กตาโดราเอมอน - คิตตี้ มูลค่าความเสียหายหลายล้าน
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 67 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร "กัน จอมพลัง" พาผู้เสียหายที่ถูกหญิงคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็น "แม่เทพ" หลอกลวง
ซึ่งทางด้าน แม่ทัพคนดังกล่าว อ้างว่า ตัวเองเป็นหลานผู้ใหญ่และรู้จักคนในวัง ต้นตระกูลเป็นผู้มียศใหญ่ และยังอ้างว่าประกอบอาชีพหลายอย่าง เช่น ทนายความ ครู นักโบราณคดี นักธุรกิจ มีฐานะร่ำรวย มีเงินเป็นร้อยล้านบาท พร้อมทั้งมีภารกิจเป็นตัวแทนของมนุษย์โลก เพื่อเร่งพระศรีอริยเมตไตร สามารถช่วยเปิดดวง ต่อชีวิต รักษาอาการป่วย
โดยแม่เทพจะพูดจาโน้มน้าวให้ผู้เสียหายคล้อยตามในเรื่องที่เป็นปมของชีวิต หลังจากนั้นจะชักชวนให้ทำบุญ ถวายพระ แก้กรรมด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ถอดรหัสชีวิตจากเลขบัตรประจำตัวประชาชน , ซื้อไอเทมเทพที่แม่เทพเลี้ยงไว้ คือ เทพหงส์ (ตุ๊กตาคิตตี้) และ เทพมังกร (ตุ๊กตาโดเรม่อน) หาพระ 3 ขา ไปไว้บนเจดีย์ ทำบุญด้วยการตกจระเข้ ซึ่งมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายรวมกันกว่าหลายล้านบาท
แม่เทพจะบังคับให้ลูกศิษย์ซื้อตุ๊กตาคิตตี้ และตุ๊กตาโดราเอมอน ซึ่งแม่เทพอ้างว่าตุ๊กตาเหล่านี้เป็นตัวกลางในการสื่อสารกับเทพองค์อื่น และเทพองค์อื่นจะอยู่ใต้อาณัติของเทพ 2 องค์นี้
โดย กัน จอมพลัง จะประสานกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางช่วยดำเนินคดีฐานฉ้อโกง รวมทั้งตรวจสอบเรื่องของการฟอกเงินด้วย ผู้เสียหายคนแรกเล่าให้ฟังว่า ตนไปอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่น และป่วยเป็นโรคที่ไปที่ไหนก็ไม่สามารถรักษาได้ ก่อนจะเจอแม่เทพโพธิ์ดังกล่าวผ่านทางโซเชียล จึงรู้สึกสนใจ และติดต่อขอเป็นลูกศิษย์ เพื่อหวังให้ช่วยทำการรักษา
ซึ่งวันแรกที่ตนได้เข้าพบกับแม่เทพ แม่เทพก็บอกว่าจะรักษาให้ฟรีไม่คิดเงิน ทำให้ตนรู้สึกประทับใจและคล้อยตามแม่เทพ ต่อมาแม่เทพทักตนว่า ที่รักษาโรคไม่หายเนื่องจากว่ามีเจ้ากรรมนายเวรคอยติดตามตนอยู่ จำเป็นต้องไปแก้กรรมด้วย 3 วิธี ดังนี้
วิธีแรก ให้ไปตกจระเข้ 7 ตัว ด้วยการจัดอาหารให้กินตัวละ 2 คำ ห้ามเกิน และห้ามให้อาหารจระเข้ซ้ำตัว ถ้าหากให้อาหารเธอหรือให้อาหารจระเข้ซ้ำ จะต้องเริ่มทำใหม่
วิธีที่สอง ให้ไปหาพระธาตุ 6 ที่ให้ทำบุญกับคนชรา 8 คน 8 ที่ คนละ 100 บาท
ต่อมาแม่เทพได้พาลูกศิษย์ไปที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีศาลของพ่อขุนด่านอยู่ในสภาพทรุดโทรม แม่เทพจึงทักท้วงว่าอยากจะเปลี่ยนศาลหรือไม่ ถ้าอยากเปลี่ยนก็ให้ลูกศิษย์ของตนถูกหวย ปรากฏว่าตนถูกหวยจริง จึงรู้สึกศรัทธาเข้าไปอีกและได้มอบเงินจำนวน 17,500 บาท ยกให้ไปในขณะนั้นเลย
หลังจากนั้น 1 เดือนต่อมา ต้นมีโอกาสได้กลับไปที่วัดดังกล่าวอีกครั้ง พร้อมกับถามพระที่อยู่ในวัดดังกล่าวว่า ศาลพ่อขุนด่านสร้างเสร็จหรือยัง จึงทำให้พระสงฆ์รูปดังกล่าวรู้สึกงง เพราะศาลเจ้ายังคงอยู่ในสภาพเดิม โดยเบ็ดเสร็จแล้ว ตนเสียเงินไปทั้งสิ้น 2 แสนกว่าบาท
ด้าน ผู้เสียหายรายที่สอง เปิดเผยว่า รู้จักแม่เทพคนดังกล่าวเมื่อปี 2565 เหมือนผู้เสียหายรายแรกที่เจอผ่านช่องทาง YouTube มีความน่าเชื่อถือ พร้อมอ้างว่า ทำงานและรู้จักคนในวังซึ่งเคยตามเสด็จ สมเด็จย่า นอกจากนี้ ในช่วงนั้นเธอรู้สึกเหมือนโดนทำของใส่ จึงได้ทักไป โดยแม่เทพคนดังกล่าว ว่าให้เธอซื้อกำไรงาช้างซึ่งมาจากส่วนกลางเป็นกำไลงาช้างจากชั้นสูงหากเป็นดาราจะต้องซื้อขายหลักล้าน
ทางด้าน แม่เทพบอกกับเธอว่า หากเช่าบูชากำไรงาช้างนี้ไปส่งเสริมชีวิตให้ดีขึ้น ให้เช่าในราคา 30,000 บาท พร้อมข่มขู่ว่าหากได้รับความเสียหายจะปรับ 10 เท่าเธอจึงตัดสินใจซื้อมาในราคา 30,000 บาทแทน แต่เมื่อซื้อมาชีวิตก็ไม่ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังให้เธอทำพิธีเปิดรหัสจักรวาลแต่ตัวเธอได้ปฏิเสธไป
อีกทั้งยังทักว่าคนในครอบครัวของเธอมีเคราะห์ลูกชายของเธอจะเสียชีวิต 90 วัน หากอยากให้ลูกชายมีชีวิตต่อจะต้องทำบุญเททองหล่อพระ ตัวเธอเองรู้สึกว่าการแก้กรรมกับแม่เทพคนดังกล่าวทำไปเหมือนไม่มีจุดสิ้นสุด แม่เทพคนดังกล่าวแนะนำให้เธอทำพฤติกรรมเปิดรหัสจักรวาล แต่เธอเองเริ่มไม่เชื่อเนื่องจากพฤติกรรมที่ผ่านมาทำมาชีวิตไม่ได้ดีขึ้น
ซึ่งในการทำพฤติกรรมเปิดจักรวาล ดาราจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า 1,000,000บาท หากเป็นคนธรรมดาแค่ 100,000 บาท และบอกกับเหยื่อว่าให้ไปกู้เงินมาทำพฤติกรรม และในตอนสุดท้ายเธอได้ฝากไปถึงแม่เทพคนก่อเหตุว่าหากมีอะไรให้มาเคลียร์กันต่อหน้าและไม่อยากให้ผ่านคนอื่น และไม่กลัวว่าแม่เทพคนดังกล่าวจะทำของใส่ เพราะที่ผ่านมาแม่เทพคนดังกล่าวก็แช่งเธอมาตลอดแต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้เป็นอะไร
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลว่า แม่เทพคนดังกล่าวเป็นหญิงชราอายุประมาณ 60 ปี รูปร่างท้วม ผิวสีแทน มีครอบครัวอยู่แล้ว และใช้บ้านของตนเองที่อำเภอบ้านเกาะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับแจ้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป