ฟังจากปาก "หมอ" ตอบชัดๆ "กินยาดักไข้" ได้ผลจริงหรือไม่
เปิดข้อมูล จากคุณหมอ-โรงพยาบาล ไขข้องสังสัยชัด "กินยาดักไข้" เช่น ยาพาราเซตามอล หรือยาแก้หวัดต่าง ๆ ได้ผลจริงหรือไม่
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยกันมาอย่างยาวนาน เกี่ยวการ"กินยาดักไข้" ว่าแท้จริงแล้ว เป็นสิ่งที่ถูกต้องและควรทำหรือไม่ ล่าสุดมีข้อมูลจาก นพ.พจน์ อินทลาภาพร หัวหน้างานโรคติดเชื้อกลุ่มงานอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี ได้ออกมาตอบชัดๆ "กินยาดักไข้" ได้ผลจริงหรือไม่
ซึ่งทางด้าน นพ.พจน์ เผยว่าโดยหลักการไม่ควรทำ เพราะยาลดไข้เป็นการบรรเทาอาการเมื่อมีไข้แล้ว "การกินยาดักไข้ไว้ก่อนโดยไม่รู้ว่าจะมีไข้จริงหรือไม่ ไม่ควรทำ" ถ้าร่างกายไม่ได้มีไข้จริง อาจจะได้ผลข้างเคียง หรือมีโอกาสแพ้ยาได้
ทั้งนี้ หากรับประทานยาโดยไม่มีข้อบ่งชี้บ่อย ๆ ร่างกายจะได้รับยาซึ่งเป็นสารเคมีเข้าไปโดยไม่จำเป็น ถ้ารับประทานเกินขนาดหรือทานบ่อย ๆ จะได้ผลข้างเคียง เช่น ยาพาราเซตามอลจะมีผลต่อตับหรือมีปัญหาตับอักเสบได้ หากรับประทานยาชนิดนี้มากเกินไป
และได้มีข้อมูลจาก โรงพยาบาลสินแพทย์ ได้ระบุไว้อีกว่า ยาพาราเซตามอล หรือยาแก้หวัดต่าง ๆ ช่วยในการบรรเทาอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยร่างกาย ลดไข้ และอาการคัดจมูกต่าง ๆ เพราะฉะนั้นการกินยาดักไว้ก่อนนั้น ไม่ถูกต้อง
ยาแก้หวัดต่าง ๆ มีฤทธิ์ในการ รักษาตามอาการ หรือช่วยบรรเทาอาการเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนช่วยในการป้องกันใด ๆ การทานยาเหล่านี้จึงควรทานต่อเมื่อมีอาการแล้วเท่านั้น เพราะหากเราทานยาเหล่านี้บ่อย ๆ จะทำให้ร่างกายได้รับยาเกินขนาด ทำให้ตับทำงานหนักขึ้น และเสี่ยงต่อโรคตับอักเสบในอนาคตได้นั่นเอง
การทานยาเหล่านี้ดักไว้ก่อนจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย หากรู้สึกไม่สบายตัว หรือไม่อยากเป็นหวัด ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่แห้งสนิท ปกป้องร่างกายตามอุณหภูมิภายนอกที่เหมาะสม ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เป็นประจำ และเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงด้วยวิตามินต่าง ๆ จากผักผลไม้? เช่น ฝรั่ง ส้ม แอปเปิ้ล เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นหวัดได้ง่าย ๆ ต่อสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน