จากประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก หลังชาวบ้านที่อยู่บริเวณ คลองบางแพรก พบเห็น น้ำสีชมพู ในคลองบางแพรกบริเวณหลัง Big C สาขาติวานนท์ โดยหน้านี้ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สั่งการให้ทีมปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว (DSS Team) กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) พร้อมนักวิทยาศาสตร์ เข้าเก็บตัวอย่างและตรวจสอบคุณภาพน้ำแล้ว
เปิดผลตรวจน้ำสีชมพูคลองบางแพรก เตือน ห้ามอุปโภค - บริโภคและสัมผัส เด็ดขาด
คืบหน้าล่าสุดเพจ กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวง อว. รายงานว่า นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวง อว. ได้เปิดเผยถึง ผลการตรวจวิเคราะห์น้ำสีชมพูโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ กำลังขยาย 600 เท่า พบว่ามีจุลินทรีย์สีชมพูอยู่จำนวนมาก
สันนิษฐานว่าเป็น แบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วง (purple sulfur bacteria) ทำให้มองเห็นเป็นสีชมพู โดยแบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วงเป็นแบคทีเรียแบบไม่ใช้ออกซิเจน มักพบในสภาพแวดล้อมของน้ำที่มีการแบ่งชั้น รวมถึงน้ำพุร้อน และแหล่งน้ำนิ่ง ซึ่งน้ำในคลองบางแพรกมีสภาพเป็นน้ำนิ่งเช่นเดียวกัน
เปิดผลตรวจน้ำสีชมพูคลองบางแพรก เตือน ห้ามอุปโภค - บริโภคและสัมผัส เด็ดขาด
ดังนั้นเมื่อน้ำในคลองบางแพรกมีสภาพไร้อากาศ หรือมีความสกปรกสูง จึงเป็นสภาวะที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของแบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วง โดยจะใช้กรดอินทรีย์ในน้ำเสียและไฮโดรเจนซัลไฟด์เป็นอาหาร รวมทั้งใช้แสงแดดในการสังเคราะห์พลังงาน
สำหรับแนวทางแก้ไขออกซิเจนในคลองบางแพรกควรติดตั้งเครื่องเติมอากาศ หรือลดภาระความสกปรกในรูปของสารอินทรีย์ในคลองบางแพรก เช่น การควบคุมแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่ทิ้งลงคลองฯ ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกิจกรรมนั้นๆ
เปิดผลตรวจน้ำสีชมพูคลองบางแพรก เตือน ห้ามอุปโภค - บริโภคและสัมผัส เด็ดขาด
ข้อแนะนำสำหรับประชาชน ห้ามนำน้ำในคลองดังกล่าวมาใช้อุปโภค บริโภค เด็ดขาด ให้ระวังการสัมผัสน้ำในคลอง หากมีการสัมผัส ให้รีบทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่ทันที ซึ่งหลังจากนี้ วศ. จะร่วมประชุมกับหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบ และปรับปรุงแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
ขอบคุณภาพจาก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวง อว.