ตำรวจ ปปป. ยืนยัน จับลูกเขยชาดา เป็นไปตามขั้นตอน ไม่มีกลั่นแกล้ง
ตำรวจ ปปป. ยืนยัน จับลูกเขยชาดา นักการเมืองดัง เป็นไปตามขั้นตอน หลักฐานแน่น ไม่มีกลั่นแกล้ง หลังถูกร้องเรียนเรียกสินบนกว่า 600,000 บาท
จากรณีพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า ตำรวจ ปปป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ซ้อนแผนจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ได้แก่
นายวีรชาติ นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี, นายธนภัสสร์ ปลัดเทศบาลตำบลตลุกดู่, นายกุลธัช ช่างควบคุมงานเทศบาลตำบลตลุกดู่, นายมานพ ผู้เจรจานัดหมายกับผู้เสียหายในคดีนี้ และนายยิ่งยง ผู้ที่มาพร้อมกับนายมานพ
โดยตำรวจ ปปป.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการในพื้นที่ตำบลตลุกดู่ว่า ถูกโทรศัพท์ข่มขู่จากการพยายามเข้าร่วมประมูลโครงการก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้านในตำบลหาดทนง และตำบลตลุกดู่ ด้วยระบบ e-bidding จำนวน 2 โครงการ ต่อมาเมื่อประมูลโครงการได้แล้วยังถูกขัดขวางทำให้ไม่สามารถหาวัสดุมาก่อสร้างตามสัญญาจนเสียค่าปรับ และเจ้าหน้าที่ไม่ยอมตรวจจ้างโครงการ ก่อนจะถูกนายวีระชัยเรียกเข้าไปเจรจาขอเงินร้อยละ 15 ของวงเงินตามสัญญา หรือรวม 2 โครงการเป็นเงินกว่าหนึ่งล้านบาท
แต่ผู้เสียหายได้ต่อรองเหลือโครงการละ 300,000 บาท และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ พร้อมวางแผนร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปช., ปปท., ให้ผู้เสียหายนำเงินสดจำนวน 600,000 บาทไปมอบให้นายมานพที่บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน ต.ทัพทัน ก่อนเข้าแสดงตัวจับกุมพร้อมของกลางเงินสด 600,000 บาท และเข้าจับกุมนายธนภัสสร์ นายกุลธัช และนายวีรชาติ และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา เจ้าหน้าที่สังกัดเทศบาลตำบลตลุกดู่ 3 ราย ในข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบ และร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนพลเรือน 2 รายแจ้งข้อกล่าวหาสนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบ และสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
พลตำรวจตรีจรูญเกียรติกล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นได้พูดคุยกับนายชาดาไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายชาดาแล้ว โดยนายชาดาไม่ได้ร้องขออะไรและขอให้เป็นไปตามกฎหมาย และกล่าวว่าตนเองได้เตือนไปแล้ว หากใครไม่หยุดก็ขอให้ดูแลตัวเองไป ยืนยันว่านายชาดาเข้าใจในกรณีนี้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเรื่องของอิทธิพลในพื้นที่นั้นยังคงมีอยู่ และมีข้อมูลว่าหลายพื้นที่ทั้งในจังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดโดยรอบยังมีผู้มีอิทธิพลมีพฤติกรรมใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อให้ได้งานไว้ทำเอง ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ปล่อยผ่านและจะสืบสวนไปยังกรณีอื่นๆในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อดำเนินการกับผู้มีอิทธิพลที่เอาเปรียบประชาชน