โตโต้ ก้าวไกล แฉลากไส้ ตลาดนัดเถื่อนแฝงบ่อน เปิดโจ๋งครึ่ม หวั่นเอี่ยวคนมีสี
โตโต้ ปิยรัฐ ส.ส.พรรคก้าวไกล เดินหน้าแฉลากไส้ หลังพบว่าเป็นตลาดนัดเถื่อนแฝงบ่อนการพนันย่านแบริ่ง เปิดโจ่งครึ่ม หวั่นเอี่ยวอิทธิพลคนมีสีมีอำนาจ
วันที่ 16 ตุลาคม 2566 กลายเป็นประเด็นร้อนที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เมื่อปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กรุงเทพฯ (พระโขนง บางนา) พรรคก้าวไกล ได้ออกมาแฉหลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่ามีตลาดนัดแฝงบ่อนการพนันอยู่ในพื้นที่ สร้างความเดือดร้อน หลอกลวงประชาชน แม้ได้พยายามแจ้งไปยังหลายหน่วยงานรัฐ แต่เรื่องกลับไม่คืบหน้า หวั่นเอี่ยวคนมีสี ลั่นวันนี้ชี้ขาด จะปล่อยมีบ่อนต่อไปหรือไม่
โดยนายปิยรัฐ กล่าวว่า ตนเคยพูดและตั้งคำถามในสภาฯ เมื่อปลายเดือนกันยายน เรื่องการจัดให้มีตลาดนัดที่แฝงด้วยกิจกรรมการละเล่นที่มีการพนัน หลอกล่อโดยใช้หน้าม้ามาหว่านล้อมให้ประชาชนเล่นแล้วเสียเงิน หลายคนสูญเสียหลักแสนบาท กลายเป็นหนี้สิน แต่สุดท้ายเรื่องไม่มีความคืบหน้า ตลาดนัดแบบนี้ยังกลับมาเปิดอีก โดยลักษณะของตลาดจะเปิดเป็นประจำ 10 วันต่อเดือน อาศัยวันสำคัญๆ เช่นเดือนสิงหาคม อ้างวันแม่แห่งชาติ เดือนตุลาคมอ้างวันนวมินทรมหาราช ไปสิ้นสุดในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม
ก่อนหน้าที่จะพูดในสภาฯ ได้เคยแจ้งเรื่องนี้ต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมาแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ (1) สถานีตำรวจนครบาลบางนา ในฐานะสถานีตำรวจในพื้นที่ (2) สำนักงานเขตบางนา ในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นผู้ออกใบอนุญาตให้มีการตั้งตลาดนัด จึงได้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่ได้มีการออกใบอนุญาต แต่ออกเพียงใบเปรียบเทียบปรับแค่วันละ 500 บาท ปรับแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ไม่ดำเนินการลงโทษมากกว่านี้ (3) ศูนย์ดำรงธรรม ทำเรื่องไปแต่ไม่มีการตอบรับกลับมา ทำให้ในที่สุดต้องไปตั้งคำถามในสภาฯ
จึงเป็นสาเหตุที่เมื่อวานนี้ (15 ตุลาคม) ตนต้องไปตั้งโต๊ะด้านหน้าตลาด เพื่อประกาศเตือนประชาชนที่จะเข้าไปใช้พื้นที่ตลาด ให้ระมัดระวังการเข้าไปร่วมการละเล่นดังกล่าว รวมถึงได้พาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนไปแจ้งความแล้วด้วย
ปิยรัฐกล่าวต่อว่า "คิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของคนไม่กี่คน แต่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล มีอำนาจ คนมีสี" นอกจากนี้ผู้แทนฯ เขตพระโขนง-บางนา กล่าวอีกว่า ตลาดนัดที่ตนพูดถึงนี้ คนที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าและคนจัด ไม่ได้เป็นคนในพื้นที่ แต่มาสร้างปัญหาในพื้นที่ ทำให้เกิดผลกระทบหลายด้าน เช่น เสียงรบกวน เพราะบางนา-พระโขนง ไม่ใช่เขตชานเมืองเหมือนในอดีต ปัจจุบันมีคอนโด หมู่บ้านจัดสรร เกิดขึ้นจำนวนมาก รวมถึงปัญหาการจราจรที่ไม่มีที่จอดรถ เลยจอดกันริมถนน ปัญหาขยะและน้ำเสียจากตลาด ที่ไม่มีการบำบัด ทำให้เป็นมลพิษ รวมถึงปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม
จึงต้องตั้งคำถามถึงสำนักงานเขตบางนา ที่อ้างว่าไม่มีใบอนุญาตเลยต้องเปรียบเทียบปรับ ทั้งที่จริงๆ อำนาจในทางปกครองของเจ้าหน้าที่ ไม่ได้มีแค่การเปรียบเทียบปรับ แต่จะไม่อนุญาตให้ตั้งตลาดนัดเลยก็ยังได้
ทั้งนี้ ปัญหาตลาดที่ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง เกิดขึ้นหลายเขตในกรุงเทพฯ หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป อาจเกิดเหตุการณ์คล้ายที่เขตประเวศซึ่งเคยเป็นข่าวดัง เมื่อมีตลาดที่เกิดขึ้นโดยไม่ถูกต้อง มีรถไปจอดขวางประตูหน้าบ้านของประชาชน ทำให้มีการเอาขวานมาจามรถจนเป็นประเด็น ต้องปิดตลาดนั้นในภายหลัง
ดังนั้นวันนี้จะเป็นวันชี้ชะตา ว่าเสียงของตนจะดังไปถึงเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมากน้อยแค่ไหน ข้อแรก ตลาดนัดนี้จะยังมีอยู่หรือไม่ ข้อสอง ถ้าตลาดนัดยังมีอยู่ จะมีกิจกรรมแอบแฝงที่เป็นการพนันอีกหรือไม่