รีไฟแนนซ์บ้าน ตัวช่วยคนไทยลดดอกเบี้ยในยุคดอกเบี้ยขาโหด
การรีไฟแนนซ์บ้านเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยผู้กู้ในการปรับปรุงสถานะการเงิน และนำไปสู่การบริหารการเงินที่ดีขึ้นทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดระยะเวลาการผ่อนได้
การผ่อนบ้านถือเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่หลายคนหนักใจทั้งด้วยจำนวนเงินต้นที่สูงและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นตามระยะเวลารวมไปถึงระยะเวลาในการผ่อนที่ยาวนานยิ่งในยุคที่ดอกเบี้ยสูงแบบนี้การรีไฟแนนซ์บ้านถือเป็นวิธีที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและช่วยให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น
เพราะการรีไฟแนนซ์บ้านเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยผู้กู้ในการปรับปรุงสถานะการเงิน และนำไปสู่การบริหารการเงินที่ดีขึ้นทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดระยะเวลาการผ่อนอีกทั้งกู้เงินสดเพิ่มเติมได้ด้วยครับอย่างไรก็ตามผู้กู้ควรพิจารณาอย่างรอบคอบรวมไปถึงเข้าใจในส่วนของอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขทั้งหมดก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านซึ่งในบทความนี้ผมจะมาอธิบายให้แบบละเอียดลึกเลยครับ
รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร
การรีไฟแนนซ์บ้าน คือการกู้ยืมเงินใหม่เพื่อชำระหนี้จำนองทรัพย์สินที่มีอยู่เงินกู้ใหม่นี้จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันเช่นอัตราดอกเบี้ยใหม่ระยะเวลาผ่อนชำระหรือจำนวนเงินกู้โดยเป้าหมายหลักของการรีไฟแนนซ์บ้านคือการได้รับเงื่อนไขที่ดีกว่าซึ่งอาจส่งผลให้การผ่อนชำระเงินรายเดือนลดลงต้นทุนดอกเบี้ยลดลงหรือผลประโยชน์ทางการเงินอื่น ๆ สำหรับผู้กู้
ใครเหมาะกับสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านความเหมาะสมขึ้นอยู่กับสถานการณ์และวัตถุประสงค์ของผู้กู้ โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การรีไฟแนนซ์เพื่อได้อัตราดอกเบี้ยในการผ่อนต่อเดือนถูกลง หรือต้องการลดระยะเวลาผ่อนบ้านเพราะการรีไฟแนนซ์ช่วยให้ผ่อนบ้านหมดได้ไวขึ้นถึง 5-10 ปีเลยทีเดียวทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยและวงเงินกู้ นอกจากนี้การรีไฟแนนซ์บ้านยังเหมาะสำหรับผู้กู้ที่ต้องการวงเงินกู้เพิ่ม เพื่อนำไปปรับปรุงรีโนเวทบ้านหรือนำไปปิดหนี้อื่น ๆ
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้าน
การรีไฟแนนซ์บ้านไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้กู้ผ่อนชำระหนี้ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง แต่ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกมากมายอย่างการลดค่าใช้จ่ายต่อเดือนให้ลดลงเสริมสภาพคล่องทางการเงินและสามารถช่วยให้ปลดภาระหนี้สิ้นได้เร็วขึ้นกว่าเดิมแถมลดระยะเวลาการผ่อนชำระอีกด้วยมาดูรายละเอียดของแต่ละข้อดีกันครับ
● ค่าผ่อนบ้านต่อเดือนถูกลง
จากแต่เดิมที่ต้องผ่อนค่าบ้านในอัตราดอกเบี้ยที่สูง แต่เมื่อทำการรีไฟแนนซ์บ้านแล้วแน่นอนว่าสัญญาใหม่จะให้อัตราดอกเบี้ย และข้อเสนอที่ดีกว่าทั้งนี้สัญญาใหม่จะเป็นไปตามการประเมินและการตกลงของผู้ขอสินเชื่ออย่างเช่นทำให้ค่าผ่อนบ้านในสัญญาใหม่ลดลงจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงหรือการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระให้นานขึ้นเช่นสัญญาเดิมผ่อนเดือนละ 20,000 บาทเหลือ 25 ปีสัญญาใหม่ขยายเวลาเป็น 30 ปีเพื่อให้ผ่อนเพียงเดือนะ 15,000 บาท
● หักเงินต้นได้มากขึ้น
เมื่อผ่อนให้ดอกเบี้ยที่ถูกลงค่าผ่อนบ้านในแต่ละเดือนสามารถนำไปหักเงินต้นได้มากขึ้นส่วนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็น้อยลงตามไปด้วยตัวอย่างเช่นผ่อนบ้านเดือนละ 20,000 บาทในสัญญาเดิมต้องหักดอกเบี้ย 12,000 บาทเหลือหักเพียง 8,000 บาทแต่สัญญาใหม่หักดอกเบี้ย 7,000 บาทจะเท่ากับเหลือหักเงินต้น 13,000 บาทนั่นเองครับ
● ขอเพิ่มวงเงินกู้ได้
การรีไฟแนนซ์บ้านแล้วขอกู้เพิ่มหลักการจะสรุปง่าย ๆ ดังนี้ครับสมมุติเราเหลือหนี้บ้าน 1,400,000 บาทแล้วธนาคารประเมินบ้านเราได้ 2,000,000 บาทให้วงเงิน 90% เท่ากับ 1,800,000 บาทดังนั้นเราสามารถกู้ 1,400,000 บาทมาปิดหนี้เก่าและกู้เพิ่มอีก 400,000 บาทมาใช้เอนกประสงค์ได้ครับ
● ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินมีเงินออมหรือเงินทุนไปลงทุนต่อยอด
นอกจากการรีไฟแนนซ์จะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้มีเงินใช้จ่ายมากขึ้นแล้ว ยังสามารถนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนต่อยอดเสริมความมั่งคั่งหรือจะนำเงินส่วนนี้มาโปะค่าบ้านก็ได้เช่นกัน
เมื่อไรถึงรีไฟแนนซ์บ้านได้
ผู้กู้จะสามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้ก็ต่อเมื่อผ่อนชำระหนี้กับทางสถาบันการเงินเดิมเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3-5 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงินในกรณีที่ผู้กู้มีประวัติเสียทางการเงินอย่างการชำระหนี้ล่าช้ามากกว่า 90-120 วันจะส่งผลต่อการพิจารณาขอรีไฟแนนซ์ค่อนข้างมากเลยทีเดียวครับ
แต่หากผู้กู้รักษาประวัติทางการเงินให้กลับมาเป็นปกติชำระหนี้ตรงตามเวลาต่อเนื่อง 1-3 ปีก็ช่วยให้การขอรีไฟแนนซ์บ้านได้ง่ายขึ้นได้ครับ
ซึ่งหากใครที่ต้องการรีไฟแนนซ์แต่ไม่อยากไปหาโปรโมชันของแต่ละธนาคารมาเปรียบเทียบเอง หรือไม่รู้ว่าธนาคารนั้น ๆ จะเหมาะสมกับคุณสมบัติของตัวเองหรือเปล่าผมขอแนะนำให้ใช้บริการรีไฟแนนซ์บ้านผ่านRefinnครับ นอกจากนี้เขายังมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและมีเจ้าหน้าที่คอยดำเนินเรื่องให้ตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับ
ขั้นตอนในการรีไฟแนนซ์บ้าน
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้านมีอยู่ 5 ขั้นตอนหลัก ๆ ด้วยกันดังนี้
- ตรวจเช็กสัญญากู้ฉบับเดิม
- ก่อนทำการรีไฟแนนซ์จะต้องตรวจสอบก่อนว่าสถาบันการเงินเดิมกำหนดเงื่อนไขใดบ้าง เนื่องจากส่วนใหญ่จะกำหนดว่า หากจะทำการรีไฟแนนซ์จะต้องผ่อนชำระกับสถาบันการเงินเดิมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปีนั่นเอง
2.เปรียบเทียบโปรโมชันรีไฟแนนซ์บ้าน
- หลังจากตรวจเช็กสัญญากู้เดิมแล้วว่าสามารถรีไฟแนนซ์ได้ขั้นตอนถัดมาคือการเปรียบเทียบโปรโมชันรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อนำมาประกอบการตัดสินว่ารีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินไหนตอบโจทย์ความต้องการทางการเงินของผู้กู้มากที่สุด
3.เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
- การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตามที่สถาบันการเงินใหม่ต้องการช่วยให้การยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านราบรื่นยิ่งขึ้น แถมช่วยให้การอนุมัติเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
4.ยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าน
- การยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านกับสถาบันการเงินใหม่จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ในการพิจารณาเอกสารดังนั้นควรยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนผ่อนครบกำหนดได้เลยครับ โดยปกติเงื่อนไขในการรีไฟแนนซ์จะขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันการเงินจะกำหนดไว้ ซึ่งส่วนใหญ่กำหนด 3- 5 ปี
5.ทำสัญญาจำนองที่กรมที่ดิน
- เจ้าหน้าที่จากธนาคารใหม่จะถือสัญญาไปเซ็นที่กรมที่ดินพร้อมกับทำสัญญาจำนองที่ดินในวันเดียวกันเพื่อความสะดวกของผู้กู้
เปรียบเทียบโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านยังไงดี
สำหรับใครที่กังวลว่าจะพลาดโปรโมชันดี ๆ ไม่รู้ว่าจะเริ่มหายังไงเงื่อนไขของที่ไหนจะตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุดสามารถติดต่อให้ทางทีมงานผู้เชี่ยวชาญอย่างRefinnได้เลยครับนอกจากจะมีทีมงานมากประสบการณ์คอบให้คำแนะนำแล้วยังคอยช่วยติดตามทั้งเอกสารและผลการรีไฟแนนซ์ช่วยให้คุณประหยัดทั้งเวลา และสามารถทำทุกอย่างผ่านทางออนไลน์ได้เลยตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครไปจนถึงการติดตามผล ผู้กู้สามารถใช้บริการทั้งหมดนี้ได้แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ