วันที่ 25 ม.ค. 67 เมื่อเวลา 10.30 น. จากกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เดินทางเข้าสภาเป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีการคำวินิจฉัยพ้นผิดคดีถือหุ้นสื่อ ไอทีวี ได้รับสมาชิกภาพสส.กลับคืนมา โดยนายพิธา แต่งกายด้วยชุดสูทสีดำ เนคไทสีฟ้า ลายจุดสีขาว พร้อมเผยความรู้สึก หลังเข้าสภาครั้งแรกและแง้มภารกิจแรกของการกลับมาเป็น สส. อีกครั้ง ในรอบ 6 เดือน
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เผยความรู้สึก หลังเข้าสภาครั้งแรก ในรอบ 6 เดือน
โดยนายพิธา เล่ารู้สึกหลังกลับเข้าสภาเป็นวันแรกว่า เป็นไออุ่นที่คุ้นเคย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เป็นระยะเวลา 6 เดือนแล้ว ที่ไม่มีโอกาสแถลงข่าวในรัฐสภา ตนยังรู้สึกว่าสภาเป็นพื้นที่รวมตัวของพี่น้องประชาชน คิดถึงบรรยากาศแบบนี้มาก
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เผยความรู้สึก หลังเข้าสภาครั้งแรก ในรอบ 6 เดือน
เมื่อถามว่าตั้งใจสวมเน็คไทสีฟ้าเป็นกิมมิคมาใช่หรือไม่ นายพิธา เผยว่า ก็ไม่ใช่กิมมิคอะไร เพราะเมื่อช่วงเช้าตนรีบ หันซ้ายหันขวาเจอเส้นไหนก่อนก็หยิบมาใส่ ทำให้นึกถึงตอนชูกำปั้นโบกมือลาเมื่อครั้งออกจากสภาขึ้นมา ซึ่งตอนนั้นก็ใส่เส้นนี้ จึงนึกสนุกขึ้นมาว่าออกไปแบบไหนก็กลับมาแบบนั้น
เมื่อถามว่าเสียดายหรือไม่กับระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา นายพิธา กล่าวว่า เสียดายโอกาสในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 แต่ช่วงถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ยังลงพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และได้เห็นปัญหาขยะล้นเมือง โดยตนจะใช้ข้อมูลที่ได้มาจากการพูดคุยกับผู้นำท้องถิ่นในการอภิปรายวันพรุ่งนี้
สำหรับภารกิจแรกของการกลับมาเป็น สส. อีกครั้ง คงเป็นการพูดคุยกับเพื่อน สส. และทักทายให้หายคิดถึง ซึ่งตอนนี้มีนักศึกษา และประชาชน แวะมาที่รัฐสภาเป็นจำนวนมาก อาจจะแวะเวียนเข้าไปพูดคุยด้วย รวมถึงจะหาจังหวะเดินเข้าห้องประชุมใหญ่ เพื่อไม่ให้รบกวนผู้อภิปราย และระหว่างการถามกระทู้ โดยวันพรุ่งนี้(26ม.ค.67) จะมีการอภิปรายเรื่องขยะ และแถลงแผนงานของพรรคก้าวไกลถึงเป้าหมายของพรรค
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เผยความรู้สึก หลังเข้าสภาครั้งแรก ในรอบ 6 เดือน
ส่วนที่ผ่านมาช่วงที่ นายพิธา หายไป พรรคก้าวไกลมีกระแสทางลบจำนวนมาก หลังจากนี้จะทำอย่างไรตอนนั้น นายพิธา กล่าวว่า ก็ต้องยอมรับด้วยความเสียใจ และขอโทษประชาชน ซึ่งช่วงที่เกิดเรื่องดังกล่าว ตนไม่ได้หายไปไหน
นายชัยธวัช ตุลาธน เป็นหัวหน้าพรรค ตนก็ไม่อยากทำให้พรรคก้าวไกลมีหัวหน้า 2 คน แต่ได้คอยให้คำปรึกษา นายชัยธวัช อยู่ตลอด เราจะเรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับปรุง รวมถึงไม่ได้แก้ตัว ยอมรับว่าจะต้องพัฒนากันอีกเยอะ เชื่อว่าประชาชนจะสัมผัสได้ถึงการพัฒนาสถาบันการเมืองของเรา