"นก อุษณีย์-ม่วย นิธิตรา" ควงคู่แจ้งความ ปอท. โดนตัดต่อรูปโปรโมทเว็บพนัน

 จากกรณีวันที่ 2 ส.ค. 67 เมื่อเวลา 15.00 น. นางสาวอุษณีย์ วัฒฐานะ อายุ 42 ปี หรือ นก อุษณีย์ นักแสดง พร้อมด้วย ม่วย นิธิตรา เชาว์พยัคฆ์ ผู้ประกาศข่าว Top News เข้าพบ ร.ต.อ.หญิง ธีรนาฏ ลิ่มสิริกุล รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.แจ้งความกรณีถูกนำภาพไปใช้โปรโมทเว็บพนันออนไลน์ จนเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของทั้งคู่

 

 

ขณะที่ ม่วย นิธิตรา กล่าวว่า ตนถูกเว็บพนันออนไลน์ นำภาพไปใช้โปรโมทเว็บไซต์ จนเกิดความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ โดยเนื้อทางที่เว็บพนันออนไลน์ดังกล่าวมานำมาเผยนั้น จะเป็นคลิปวิดีโอการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับ นอท ลอตเตอรี่พลัส แต่จะมีการตัดเนื้อหาบางช่วงบางตอนออก ทำให้เนื้อหาบิดเบือนเป็นลักษณะการชักชวนเล่นพนันออนไลน์ของเว็บดังกล่าว อีกทั้งบุคคลที่โพสต์คลิปวิดีโอยังใช้โปรไฟล์เป็นรูปภาพของ นอท ลอตเตอรี่พลัส อีกด้วย

ทราบเรื่องเพราะมี FC ส่งภาพมาให้ดู เนื่องจากเข้าไปเล่นเกมแล้วเห็นเว็บไซต์ดังกล่าวนำภาพตนเองมาใช้โปรโมท พอกดคลิกเข้าไปดูก็เป็นคลิปวิดีโอสกู๊ปข่าว แต่มีการตัดต่อคำพูดของตนเอง ซึ่งหลังจากทราบเรื่องก็รู้สึกตกใจอย่างมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับตนเอง เนื่องจากอาจทำให้คนที่ไม่รู้เกิดความเข้าใจผิดได้

 

ส่วน นก อุษณี ก็ถูกอีกแพลตฟอรมติ๊กต๊อกบัญชี ชื่อว่า "piny.ka" โพสต์รูปตนเองพร้อมข้อความ ระบุว่า ข่าวด่วน จับแล้วนก อุษณีย์ DSI ตรวจสอบดาว tiktok ไฮโซสาว ผู้ติดตาม 986.36k คนถูกใจ 15.8 m ใช้ชีวิตหรูหราร่ำรวย ขับรถสปอร์ตทำธุรกิจไลฟ์สดขายของ แต่ไม่มีใครกล้าพูด"

ข้อความดังกล่าวมีชื่อของเว็บพนันออนไลน์อยู่ด้วย อาจทำเกิดความเข้าใจผิด จึงชวนกันมาแจ้งความ ปอท. ให้ช่วย สืบหาคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง โฆษก ตร.กล่าวว่า การกระทำของเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่เอารูปของบุคคลอื่นไปตัดต่อ แอบอ้าง เพื่อการโฆษณา นอกจากจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12 แล้ว ยังจะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 16 ในความผิดฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท อีกด้วย

สำหรับพี่น้องประชาชนที่ถูกแอบอ้าง นำภาพไปใช้ในการสร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ปลอม หรือนำไปใช้ในการโฆษณาโดยไม่ได้รับความยินยอม ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

1. แจ้งความ - แจ้งทันทีที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน 
2. รีพอร์ต - รายงานไปยังผู้ให้บริการโซเชียล
3. บอกเพื่อน - ญาติสนิท มิตรสหาย เพื่อไม่ให้ถูกหลอก

สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง