เช็คด่วน ! เงื่อนไขผู้ได้รับ“เงินผู้สูงอายุเดือนตุลาคม 2566 ” เกณฑ์ใหม่
เงินผู้สูงอายุเดือนตุลาคม 2566" กระทรวงมหาดไทยมีการปรับหลักเกณฑ์ใหม่ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเรื่องของการปรับอัตราการจ่ายเงินผู้สูงอายุ
"เงินผู้สูงอายุเดือนตุลาคม 2566" กระทรวงมหาดไทยมีการปรับหลักเกณฑ์ใหม่ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. 2566 และเรื่องของการปรับอัตราการจ่ายเงินผู้สูงอายุ สำหรับคนที่ครบตามขั้นบันได
เงื่อนไขผู้ได้รับ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” เกณฑ์ใหม่
- มีสัญชาติไทย
- มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- มีอายุ 60 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ได้ยืนยันสิทธิขอรับเงิน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น
- เป็นผู้ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด
“เงินผู้สูงอายุ” เกณฑ์ใหม่ ล่าสุด
เงินผู้สูงอายุ ระเบียบใหม่ล่าสุด ว่าด้วยเรื่องการปรับอัตราการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ปรับอัตราจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แบบขั้นบันได ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ เดือนที่ผู้สูงอายุ มีอายุครบช่วงอายุในเดือนถัดไป ซึ่งระเบียบใหม่จะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สูงอายุทุกคน เช่น ในระหว่างปีงบประมาณ ผู้สูงอายุ มีอายุครบ ไม่ว่าจะครบ 70 ปี, 80 ปี หรือ 90 ปี ในเดือนไหน เดือนถัดไป ก็จะได้ปรับขึ้นทันทีตามขั้นบันได เช่น อายุครบ 70 ปี เดือน ม.ค. 2567 ในเดือน ก.พ. 2567 ก็จะได้ปรับเป็น 700 บาททันที ไม่ต้องรอปีงบประมาณใหม่ ส่วนคนใดที่เกิดวันที่ 1 ในเดือนที่ครบอายุ ก็จะได้รับในเดือนนั้นทันที
อัตราจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุ ล่าสุด
- ผู้สูงอายุ 60-69 ปี รับเบี้ยผู้สูงอายุ 600 บาท
- ผู้สูงอายุ 70-79 ปี รับเบี้ยผู้สูงอายุ 700 บาท
- ผู้สูงอายุ 80-89 ปี รับเบี้ยผู้สูงอายุ 800 บาท
- ผู้สูงอายุ 90 ปีขึ้นไป รับเบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 บาท
การจ่ายเงินผู้สูงอายุ โดยปกติแล้ว กรมบัญชีกลางจะโอนเงินให้ผู้สูงอายุ หรือ ผู้มีสิทธิ ทุกวันที่ 10 ของทุกเดือน หากวันที่ 10 ตรงกับวันหยุดราชการ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์กรมบัญชีกลางจะโอนก่อนวันหยุดนั้นๆ