กรุงเทพธนาคม ร่วมพัฒนาเมืองอย่างสร้างสรรค์ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ชาวกทม.
กรุงเทพธนาคม "ร่วมพัฒนาเมืองอย่างสร้างสรรค์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวกรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน" กำหนดนโยบายสนับสนุนใน 3 ด้านหลักๆ คือ โปร่งใสดี เดินทางดี สิ่งแวดล้อมดี
วันที่ 27 พ.ค.67 ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด พร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้บริหาร ร่วมกันแถลงข่าว 2 ปีการดำเนินงานของ กรุงเทพธนาคม ภายใต้นโยบายจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตาม แนวทาง "9 ด้าน 9 ดี" ปลอดภัยดี โปร่งใสดี เศรษฐกิจดี เดินทางดี สิ่งแวดล้อมดี สุขภาพดี สังคมดี เรียนดี และบริหารจัดการดี เพื่อยกระดับคุณภาพความเป็นอยู่ของชาว กทม. ในทุกๆ ด้านอย่างยั่งยืน
ซึ่งทางกรุงเทพธนาคมก็ได้กำหนดนโยบายสนับสนุนใน 3 ด้านหลักๆ คือ โปร่งใสดี เดินทางดี สิ่งแวดล้อมดี เพื่อสร้างความยั่งยืนในการเป็นวิสาหกิจภายใต้ กทม. ที่ตอบสนองนโยบายได้อย่างเข้มแข็งมั่นคงต่อไปในอนาคต
ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมาภายใต้คณะกรรมการชุดปัจจุบันได้ตอบสนองนโยบายจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมุ่งเน้นการสร้าง Foundation ที่ทำให้บริษัทมีหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใสภายใต้การกำกับดูแลของกรุงเทพมหานคร ควบคู่ไปกับการร่วมพัฒนาเมืองสู่มหานครแห่ง "การเดินทางอัจฉริยะ " และ "พัฒนาเมืองอย่างสร้างสรรค์"
อีกทั้งยังเร่งแก้ไขปัญหาโครงการขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อกรุงเทพมหานคร เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาคณะกรรมการมีความพอใจในความคืบหน้าและความสำเร็จเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ ตั้งแต่การสร้างการกำกับดูแลผ่านคณะกรรมการชุดย่อยต่างๆ ที่เข้มแข็งมีคุณภาพ การนำองค์กรเข้าเป็นแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC)
และเข้าร่วมโครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาคเอกชนที่เป็นคู่ค้าคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐ ของ ป.ป.ช. หรือ โครงการ ITAGC เพื่อประเมินความโปร่งใสในโครงการกำจัดและเก็บขนมูลฝอยติดเชื้อ ที่ได้รับผลการประเมิน ระดับ AA ได้คะแนน 96.05 ในปี 2566 และในปี 2567 ในการประเมินโครงการพัฒนาระบบการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม
อีกทั้งบริษัทยังปรับเปลี่ยนมาใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินสำหรับกิจการที่มีส่วนได้
เสียต่อสาธารณะ TFRS for PAEs เป็นมาตรฐานเดียวกับบริษัทจดทะเบียนในลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะส่งผลให้ตัวเลขในงบการเงินสามารถสะท้อนฐานะและผลการดำเนินงานของกิจการได้อย่างถูกต้อง โปร่งใส มีความน่าเชื่อถือ จากนี้ไปบริษัทก็จะยังคงมุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหาโครงการขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญให้สำเร็จลุล่วงต่อไป รวมถึงการเริ่มพัฒนาโครงการที่สร้างสรรค์ใหม่ๆเพื่อตอบสนองนโยบาย กทม. ในการพัฒนาเมือง
ด้าน นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้อำนวยการกรุงเทพธนาคม กล่าวว่าจากการที่ทีมบริหารได้ทำงานร่วมกับคณะกรรมการอย่างใกล้ชิด พนักงานและผู้บริหารมีความมั่นใจในแนวทางและนโยบายเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้และทำงานร่วมมือกันได้อย่างสอดคล้องมีประสิทธิภาพเป็นอย่างดี โดยในส่วนของโครงการรถฟฟ้าสายสีเขียว ได้มีการชำระค่างานระบบเดินรถ (E&M)ของส่วนต่อขยาย 2 มูลค่า 23,312 ล้านบาท และ BTSC ก็ได้โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้ กทม.แล้ว เมื่อวันที่ 2 เม.ย.67 ส่วนที่ BTSC มีการฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถ(O&M) ส่วนต่อขยาย 1 และ 2 รวม 22,823 ล้านบาท ซึ่งทางบริษัทก็ได้ทำการยื่นอุทธรณ์ไป
ขณะนี้อยู่ในระหว่างรอผลการพิจารณาคดี ในระยะสั้นบริษัทจะเร่งกระบวนการหารายได้เชิง
พาณิชย์จากการให้สิทธิพื้นที่ป้ายโฆษณาและร้านค้าบนสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 1 และ 2 เพิ่มเติมภายในปี 2567 แผนการดำเนินงานต่อไป บริษัทจะเข้าร่วมแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างในภาพรวมของรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งระบบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาครัฐและประชาชนผู้ใช้บริการ อีกทั้งยังเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ สามารถสนองนโยบายภาครัฐในการสร้างระบบตั๋วร่วมและค่โดยสาร 20 บาทตลอดสายให้สำเร็จได้
โครงการเก็บขนและกำจัดมูลฝอยติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บริษัทมีการให้บริการ
กับสถานพยาบาลกว่า 5,900 แห่ง น้ำหนักมูลฝอยเฉลี่ย 55 ตัน/วัน ในอนาคตมีแผนที่จะพัฒนาระบบการจัดการเพื่อเข้าสู่ระบบมาตรฐาน ISO 9000 และ ISO 14000 รวมทั้งจะลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ด้วยการนำรถไฟฟ้ามาใช้ทดแทนรถเก็บขนที่มีอยู่จำนวน 31 คัน
ส่วนโครงการใหม่ๆ ที่บริษัทกำลังพัฒนา ประกอบด้วยโครงการแอปพลิเคชั่นวินมอเตอร์
ไซค์ เพื่อเป็นแอปพลิเคชั่นโดยเฉพาะที่สนับสนุนและยกระดับคุณภาพของวินมอเตอร์ไซค์เพื่อการบริการที่ครอบคลุมทั่วถึง เป็นประโยชน์ต่อทั้งประชาชนชาว กทม. และวินมอเตอร์ไซค์ ขณะนี้ได้ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นหลักแล้ว
คาดว่าจะเริ่มให้บริการเป็นการทั่วไปได้ภายใน ก.ค 67 โครงการเรือ Taxi EV Boat สร้างเส้นทางเดินเรือเพื่อการเดินทางทั่วไปและท่องเที่ยว เช่น คลองบางลำพูคลองลาดพร้าว เป็นเรือไฟฟ้า EV เพื่อช่วยในด้านสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะเริ่มโครงการนำร่องได้ในก.ค. 2567 โครงการระบบโต้ตอบ BKK Chat Al ในการบริการสาธารณะที่หลากหลาย ในการตอบสนองข้อซักถามต่างๆ ให้กับประชาชนแต่ละวันเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะเริ่มนำระบบ BKK Chat A นี้มานำร่องทดสอบเบื้องต้นกับหน่วยงานภายใน กทม. ใน ส.ค. 2567