กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์ ไข้หวัดนก H5N1 ล่าสุด ใกล้ชายแดนไทย หลังประเทศกัมพูชาพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเดือนมิถุนายน–กรกฎาคม 2568 พบผู้ติดเชื้อแล้ว 7 ราย รวมสะสม 12 ราย จาก 7 จังหวัด เสี่ยงกระทบไทยโดยตรง
ล่าสุด วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา รายงานพบ เด็กชายวัย 5 ขวบ ในจังหวัดกัมปอต ติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1 หลังมีประวัติใกล้ชิดไก่ในครอบครัว และมีไก่ตายหลายตัวในบ้าน ก่อนหน้านี้ วันที่ 30 มิถุนายน พบเด็กชายวัย 19 เดือนในจังหวัดตาแก้ว เสียชีวิตจาก ไข้หวัดนก H5N1 อีก 1 ราย
ด้าน ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี เปิดเผยว่า เชื้อในกัมพูชาครั้งนี้เป็นสายพันธุ์ คลาส 2.3.2.1e เกิดจากการผสม (reassortment) ของสายพันธุ์พื้นถิ่นกับสายพันธุ์ระบาดโลก 2.3.4.4b ซึ่งมีความเสี่ยงหากเกิดการกลายพันธุ์เพิ่ม อาจแพร่จากคนสู่คนได้
ไข้หวัดนก H5N1 ระบาดกัมพูชา ติดเชื้อเพิ่ม 7 ราย จับตาใกล้ชายแดนไทย
พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ โฆษกกรมควบคุมโรค ย้ำว่า สถานการณ์ในไทยยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ไข้หวัดนก H5N1 และประเมินความเสี่ยงในประเทศอยู่ในระดับ “ต่ำ” แต่ไม่ประมาท พร้อมเฝ้าระวังเชิงรุกแบบ One Health ร่วมกับกรมปศุสัตว์และกรมอุทยานฯ ตรวจเข้มทั้งสัตว์ปีก คน และสัตว์ป่า
ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวัง โดย หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ปีกป่วยหรือตาย ห้ามจับต้องซากสัตว์ และหากจำเป็นต้องรับประทานเนื้อสัตว์ปีกหรือไข่ ควรปรุงให้สุกทุกครั้ง หมั่นล้างมือบ่อย ๆ และหากเดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง เช่น กัมพูชา สหรัฐฯ หรือฝรั่งเศส ควรสังเกตอาการตนเอง 14 วัน หากมีไข้ ไอ หอบเหนื่อย ให้รีบพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติเดินทางทันที
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเมินว่า หากเชื้อไข้หวัดนก H5N1 พัฒนาแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้จริง จะสร้างวิกฤตระดับโลก ซึ่งอาจร้ายแรงกว่าโควิด-19 หลายเท่า จึงจำเป็นต้องเร่งควบคุมสถานการณ์ในสัตว์ปีกอย่างเข้มงวด
สำหรับประเทศไทย ยังคงเข้มมาตรการเฝ้าระวัง พร้อมเตือนเกษตรกร ผู้ประกอบการฟาร์มสัตว์ปีก และประชาชนทั่วไป ให้ติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ไข้หวัดนก H5N1 อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดในประเทศ
ไข้หวัดนก H5N1 ระบาดกัมพูชา ติดเชื้อเพิ่ม 7 ราย จับตาใกล้ชายแดนไทย
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ