ผู้เชี่ยวชาญเตือน! กิน “ไข่ดิบ” เสี่ยงเชื้อโรค แนะเลือกไข่พาสเจอไรซ์หากจำเป็นต้องบริโภค
การบริโภคไข่ดิบยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัย โดยเฉพาะเมื่อกระแสอาหารสุขภาพ และการรับประทานแบบธรรมชาติได้รับความนิยมมากขึ้น หลายคนเชื่อว่าไข่ดิบมีประโยชน์มากกว่าไข่สุก อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและความปลอดภัยทางอาหารเตือนว่า การกินไข่ดิบอาจมีความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม
แพทย์เตือน! กินไข่ดิบเสี่ยงติดเชื้อ พาเชื้อโรคอันตรายถึงชีวิต
ความเสี่ยงจาก ไข่ดิบ ซัลโมเนลลา ภัยเงียบจากอาหาร
หนึ่งในอันตรายที่สำคัญที่สุดของการบริโภคไข่ดิบ คือการติดเชื้อแบคทีเรีย ซัลโมเนลลา (Salmonella) ซึ่งอาจปนเปื้อนอยู่ในเปลือกไข่หรือภายในไข่ หากได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เกิด อาการอาหารเป็นพิษ ได้แก่ ไข้สูง ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น
- เด็กเล็ก
- หญิงตั้งครรภ์
- ผู้สูงอายุ
- ผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ
ไข่ดิบย่อยยากกว่าที่คิด และอาจลดการดูดซึมวิตามิน
แม้ไข่จะเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง แต่ในไข่ดิบจะมีโปรตีนชนิดหนึ่งชื่อว่า อะวิดิน (Avidin) ซึ่งจะจับกับ ไบโอติน (วิตามิน B7) และลดการดูดซึมของร่างกาย นอกจากนี้ โปรตีนในไข่ดิบยังย่อยยากกว่าไข่สุก ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการนำไปใช้ของร่างกายต่ำลง
แพทย์เตือน! กินไข่ดิบเสี่ยงติดเชื้อ พาเชื้อโรคอันตรายถึงชีวิต
บางวัฒนธรรมกินไข่ดิบเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องมีการควบคุม
ในบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น การบริโภคไข่ดิบเป็นเรื่องปกติ เช่น ในเมนู "ข้าวราดไข่ดิบ" (Tamago Kake Gohan) แต่ไข่ที่ใช้มักผ่านการพาสเจอไรซ์หรือกระบวนการฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐานแล้ว จึงมีความปลอดภัยในการบริโภค
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
หากจำเป็นต้องบริโภคไข่ดิบ แนะนำให้เลือกใช้ไข่ที่ผ่านการพาสเจอไรซ์ หลีกเลี่ยงไข่ที่มีเปลือกแตกหรือสกปรก และควรล้างไข่ก่อนใช้งานเสมอ รวมถึงควรบริโภคทันทีหลังตอก ไม่ควรเก็บไว้นาน
สรุป
แม้ไข่ดิบจะให้สารอาหารที่มีประโยชน์ แต่ก็ต้องแลกมากับความเสี่ยงด้านสุขภาพที่อาจรุนแรงได้ โดยเฉพาะเชื้อซัลโมเนลลา จึงควรตระหนักถึงความปลอดภัยก่อนการบริโภคเสมอ หากไม่แน่ใจหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรเลือกไข่ปรุงสุกเพื่อความปลอดภัยสูงสุด