โรคมะเร็งไม่หลับใหล! เปิดสัญญาณเตือนที่มักโผล่กลางดึก

แพทย์เตือนว่าโรคมะเร็งสามารถแสดงอาการในช่วงกลางคืน เช่น เหงื่อออกมากผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม ควรสังเกตอาการของร่างกายและปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติ 

แพทย์เตือน! สัญญาณโรคมะเร็งอาจมาเยือนตอนกลางคืน ไม่ควรมองข้าม

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งออกมาเตือนประชาชนให้ใส่ใจสัญญาณผิดปกติของร่างกายที่อาจแสดงออกในช่วงกลางคืน โดยเฉพาะ “เหงื่อออกมากผิดปกติขณะนอนหลับ” 

ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งเม็ดเลือดขาว

แพทย์ระบุว่า อาการเหงื่อออกตอนกลางคืนจนเสื้อผ้าและที่นอนเปียกชุ่ม แม้อุณหภูมิห้องจะเย็น ถือเป็นอาการหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม หากเกิดร่วมกับอาการอื่น 

เช่น ไข้ต่ำๆ เรื้อรัง น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ต่อมน้ำเหลืองโต หรืออ่อนเพลียผิดปกติ อาจบ่งชี้ถึงความผิดปกติภายในร่างกาย

โรคมะเร็งไม่หลับใหล! เปิดสัญญาณเตือนที่มักโผล่กลางดึก

 

สัญญาณเตือนของโรคมะเร็งตอนกลางคืน

1. เหงื่อออกตอนกลางคืนมากผิดปกติ

ตื่นมาพร้อมเสื้อผ้าและที่นอนเปียกชุ่ม แม้ห้องจะเย็น

ไม่เกี่ยวกับอากาศหรือความร้อน

มักเกิดต่อเนื่องเป็นสัปดาห์หรือเดือน

2. ไข้ต่ำๆ เรื้อรังโดยไม่มีสาเหตุ

ไข้ไม่สูงมาก (ประมาณ 37.5–38.5°C)

มักเกิดตอนกลางคืนหรือค่ำ

ไม่ตอบสนองต่อยาลดไข้ทั่วไป

3. น้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจ

ลดมากกว่า 10% ของน้ำหนักตัวภายใน 6 เดือน

ไม่ได้ออกกำลังกายหรือลดอาหาร

4. ต่อมน้ำเหลืองโต

คลำเจอก้อนนิ่มหรือแข็งบริเวณคอ รักแร้ หรือขาหนีบ

ไม่เจ็บ แต่โตขึ้นเรื่อยๆ

มักชัดเจนขึ้นตอนนอนหรือพักผ่อน

5. อาการคันผิวหนังตอนกลางคืน

คันลึกๆ ใต้ผิว ไม่เห็นผื่น

มักเกิดบริเวณแขน ขา ลำตัว

อาจเกิดจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อเซลล์มะเร็ง

6. เหนื่อยง่ายตอนกลางคืน

เหนื่อยแม้ไม่ได้ออกแรงมาก

ต้องนอนพักระหว่างกิจกรรมปกติ

โรคมะเร็งไม่หลับใหล! เปิดสัญญาณเตือนที่มักโผล่กลางดึก

"หลายคนมองว่าเหงื่อออกตอนกลางคืนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในทางการแพทย์มันอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคร้ายแรง โดยเฉพาะในกลุ่มมะเร็งเลือดและต่อมน้ำเหลือง ซึ่งพบได้ไม่น้อยในคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ" แพทย์กล่าว

นอกจากเหงื่อออกตอนกลางคืน แพทย์ยังแนะนำให้ประชาชนสังเกตอาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในเวลากลางคืน เช่น อาการคันโดยไม่มีผื่น เหนื่อยง่าย หรือรู้สึกไม่สบายตัวอย่างต่อเนื่อง หากพบอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่นๆ

คำแนะนำจากแพทย์: หากมีอาการผิดปกติอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ ควรจดบันทึกอาการไว้ และเข้ารับการตรวจร่างกายโดยละเอียด เพราะการตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้นมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้สูง