สถานการณ์ของ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ไม่สู้ดีนัก หลังบุกไปพ่าย เติร์กเมนิสถาน แบบสุดช็อก 1-3 ในศึกคัดเลือก เอเชียน คัพ 2027 เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยประตูแรกเกิดขึ้นเร็วเพียงแค่ 36 วินาที จากจังหวะหลุดเข้าไปยิงของ ติ-ตอฟ มิฮาอิล แม้ไทยจะตีเสมอได้ในนาทีที่ 35 จากลูกโหม่งของ ศุภชัย ใจเด็ด ที่ได้บอลจากการเปิดของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ แต่หลังจากนั้นเพียง 2 นาที ยิลอาส ก็ยิงให้เจ้าถิ่นนำอีกครั้ง และปิดท้ายด้วยประตูที่ 3 ในนาทีที่ 66 จากลูกเตะมุมที่ ซาปารอฟ เมกาน ซัดเข้าไปอย่างง่ายดาย
เติร์กเมนิสถาน ชนะ 2 นัดรวด มี 6 คะแนน นำจ่าฝูง
ไทย มี 3 คะแนน จาก 2 นัด รั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม
การพ่ายในเกมนี้ทำให้ไทยตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เพราะเติร์กเมนิสถานถือเป็นคู่แข่งโดยตรงในการแย่งตั๋วเข้ารอบสุดท้าย
ขณะที่ มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นของทีมชาติไทย ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากแฟนบอลและสื่อถึงการจัดตัวผู้เล่น โดยเขา เปลี่ยน 11 ตัวจริงทั้งหมด จากเกมอุ่นเครื่องที่ชนะอินเดีย 2-0 และไม่ส่งสองแข้งฟอร์มดีอย่าง ปรเมศย์ อาจวิไล และ เบนจามิน เดวิส ลงสนามเป็นตัวจริง
หลังจบเกม อิชิอิ ให้สัมภาษณ์ว่า “เติร์กเมนิสถานมีรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน และมีนักเตะจากสโมสรเดียวกันถึง 8-9 คน ทำให้ระบบทีมแข็งแกร่งกว่า ส่วนการไม่ส่งเบนจามิน เดวิสเป็นตัวจริง เป็นเพราะมองว่าเรื่องการยืนตำแหน่งยังมีคนที่ทำได้ดีกว่าในเกมนี้”
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงปัจจัยสนามหญ้าเทียมที่อาจมีผลต่อฟอร์มของนักเตะไทยด้วย
แม้โอกาสจะริบหรี่ แต่ทีมชาติไทย ยังมีสิทธิ์ลุ้นเข้ารอบ หากทำผลงานได้ตามเงื่อนไขต่อไปนี้
เข้ารอบ 100% ต้อง
หากไม่ชนะรวด ต้องหวังว่า
โปรแกรมทีมชาติไทยนัดต่อไป
กันยายน : แข่ง คิงส์คัพ ครั้งที่ 51
ตุลาคม : เจอ ไต้หวัน แบบเหย้า-เยือน ในศึกคัดเลือกเอเชียนคัพ
รายการนี้จะคัดเฉพาะ “แชมป์กลุ่ม” ไปเล่นรอบสุดท้าย ที่ ซาอุดีอาระเบีย ปี 2027