thainewsonline

เทรนด์กินอาหารคลีน เสี่ยงขาดสารอาหารหากไม่รู้จักกินให้ถูกวิธี

07 มิถุนายน 2568
เทรนด์กินอาหารคลีน เสี่ยงขาดสารอาหารหากไม่รู้จักกินให้ถูกวิธี

เทรนด์กินอาหารคลีนได้รับความนิยม แต่กินผิดวิธีเสี่ยงขาดสารอาหารและผลเสียสุขภาพ ควรกินอย่างสมดุลและปรับค่อยเป็นค่อยไป

“เทรนด์กินอาหารคลีน อันตรายถ้าไม่รู้จักเลือกกินให้ถูกวิธี”

เทรนด์การกินอาหารคลีนที่เน้นการบริโภคอาหารธรรมชาติและไม่ผ่านการปรุงแต่งกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การกินอาหารคลีนแบบผิดวิธีหรือเคร่งครัดเกินไป อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพหลายประการ เช่น

ขาดสารอาหารสำคัญ: การตัดอาหารบางกลุ่มออกจากเมนูโดยไม่สมดุล เช่น การหลีกเลี่ยงกลุ่มแป้งหรือโปรตีนจากสัตว์ อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น วิตามิน B12 แคลเซียม และธาตุเหล็ก

เทรนด์กินอาหารคลีน เสี่ยงขาดสารอาหารหากไม่รู้จักกินให้ถูกวิธี เทรนด์กินอาหารคลีน เสี่ยงขาดสารอาหารหากไม่รู้จักกินให้ถูกวิธี

น้ำหนักลดแบบไม่ยั่งยืน: การกินอาหารจำกัดชนิดและปริมาณมากเกินไป อาจทำให้น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อกลับมากินอาหารปกติ น้ำหนักอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ผลกระทบทางจิตใจ: การควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดอาจทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล และอาจนำไปสู่พฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ เช่น การกินมากเกินไปหรือการหลีกเลี่ยงอาหารในสังคม

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เลือกกินอาหารคลีนแบบสมดุล รับประทานให้ครบ 5 หมู่ และเน้นความหลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและรักษาสุขภาพในระยะยาว

เทรนด์กินอาหารคลีน เสี่ยงขาดสารอาหารหากไม่รู้จักกินให้ถูกวิธี เทรนด์กินอาหารคลีน เสี่ยงขาดสารอาหารหากไม่รู้จักกินให้ถูกวิธี

วิธีการกินอาหารคลีนอย่างถูกวิธี

1. เลือกอาหารธรรมชาติสดใหม่

เน้นผัก ผลไม้สด ๆ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนคุณภาพดี เช่น ปลา ไก่ ไข่ ถั่ว

หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปหรืออาหารที่ใส่สารกันบูดและสารเคมีเยอะ

2. กินอาหารครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม

ไม่ตัดกลุ่มอาหารใดกลุ่มหนึ่งออกโดยสิ้นเชิง เช่น คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน

รักษาความหลากหลายของอาหาร เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน

3. ลดการใช้เกลือ น้ำตาล และน้ำมันที่ไม่ดี

ใช้เครื่องปรุงรสธรรมชาติแทนเกลือหรือน้ำตาลมากเกินไป

เลือกใช้น้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันมะกอก หลีกเลี่ยงน้ำมันทอดซ้ำ

4. ปรุงอาหารด้วยวิธีที่ดีต่อสุขภาพ

เน้นการนึ่ง ต้ม ย่าง หรือผัดด้วยน้ำมันน้อย แทนการทอด

ลดการใช้ซอสปรุงรสหรืออาหารแปรรูปที่มีโซเดียมสูง

5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ดื่มน้ำสะอาดประมาณวันละ 6-8 แก้ว เพื่อช่วยระบบย่อยและขับของเสีย

6. ฟังสัญญาณความหิวและอิ่มของร่างกาย

กินเมื่อหิวและหยุดเมื่ออิ่ม อย่ากินเพราะความเครียดหรือเบื่อ

7. ปรับเปลี่ยนอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมอาหารทันทีทั้งหมด แต่ค่อย ๆ ปรับเพื่อให้เกิดความยั่งยืน

Thailand Web Stat