ผัก 5 อย่างที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาโรค พร้อมโรคหรือภาวะสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
1. บรอกโคลี
โรคที่ช่วยบรรเทา: มะเร็ง, เบาหวาน, โรคหัวใจ
เหตุผล: อุดมด้วยสารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และป้องกันเซลล์มะเร็งเติบโต
"เปิดลิสต์! ผัก 5 ชนิด กินเป็นประจำ บรรเทาโรคเรื้อรังได้จริง"
กินอย่างไร
นึ่ง 3–5 นาที ดีกว่าต้ม เพราะการต้มจะทำให้วิตามิน C และซัลโฟราเฟนสลาย
ไม่ควรไมโครเวฟหรือผัดนาน เพราะความร้อนสูงทำลายสารต้านมะเร็ง
เสริม: ทานร่วมกับน้ำมันมะกอกหรืออาหารที่มีไขมันดี เพื่อช่วยดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระ
2. กระเทียม
โรคที่ช่วยบรรเทา: ความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจ, ไขมันในเลือด
เหตุผล: มีสารอัลลิซิน (Allicin) ที่ช่วยลดความดัน ลดคอเลสเตอรอล และเสริมภูมิคุ้มกัน
"เปิดลิสต์! ผัก 5 ชนิด กินเป็นประจำ บรรเทาโรคเรื้อรังได้จริง"
กินอย่างไร
สับหรือบดแล้วปล่อยทิ้งไว้ 10 นาที ก่อนนำไปปรุง เพื่อกระตุ้นการสร้างอัลลิซิน (สารสำคัญ)
ทานดิบในปริมาณพอเหมาะ หรือใส่ลงในอาหารหลังปรุงสุกจะยังคงคุณค่าบางส่วน
ปริมาณแนะนำ: วันละ 1-2 กลีบพอเพียง
3. ใบย่านาง
โรคที่ช่วยบรรเทา: เบาหวาน, ไข้, ลมร้อน
เหตุผล: มีฤทธิ์เย็น ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ลดน้ำตาลในเลือด และต้านอนุมูลอิสระ
"เปิดลิสต์! ผัก 5 ชนิด กินเป็นประจำ บรรเทาโรคเรื้อรังได้จริง"
กินอย่างไร
ดื่มน้ำคั้นสด (ไม่ใส่น้ำตาล) หรือลวกเบา ๆ ใส่ในแกงจืดหรือต้มต่าง ๆ
ไม่ควรต้มจนเดือดจัด เพราะจะสูญเสียวิตามิน C และคลอโรฟิลล์
เคล็ดลับ: ดื่มตอนเช้าหรือขณะเป็นไข้ ช่วยลดความร้อนในร่างกาย
4. แครอท
โรคที่ช่วยบรรเทา: โรคตา, มะเร็ง, ภูมิแพ้
เหตุผล: อุดมด้วยเบต้าแคโรทีน (วิตามิน A) บำรุงสายตา และช่วยต้านเซลล์มะเร็ง
"เปิดลิสต์! ผัก 5 ชนิด กินเป็นประจำ บรรเทาโรคเรื้อรังได้จริง"
กินอย่างไร
ผัดหรือต้มเล็กน้อยกับไขมันดี (เช่น น้ำมันมะกอก) เพื่อช่วยดูดซึมเบต้าแคโรทีน
หลีกเลี่ยงการปั่นดื่มมากเกินไป เพราะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่ง
เสริม: ทานคู่กับอาหารที่มีวิตามิน E จะช่วยเสริมฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
5. ฟ้าทะลายโจร
โรคที่ช่วยบรรเทา: ไข้หวัด, เจ็บคอ, ภูมิคุ้มกันต่ำ
เหตุผล: มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่มีฤทธิ์ต้านไวรัส แบคทีเรีย และลดไข้
"เปิดลิสต์! ผัก 5 ชนิด กินเป็นประจำ บรรเทาโรคเรื้อรังได้จริง"
กินอย่างไร
นิยมทานเป็น แคปซูลสกัด หรือแบบชง (ผงแห้ง)
หากทานสดให้ล้างสะอาดและกินในปริมาณพอดี ไม่ควรกินติดต่อกันเกิน 5–7 วัน
ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์, คนความดันต่ำ หรือคนที่ทานยากดภูมิ