ทำไมกาแฟถึงขัดขวางการดูดซึมสารอาหาร?
ปัญหาหลักอยู่ที่สารประกอบบางชนิดในกาแฟ โดยเฉพาะ แทนนิน (Tannins) และ คาเฟอีน (Caffeine) ซึ่งมีผลกระทบต่อกระบวนการดูดซึมสารอาหารในลำไส้เล็ก
ผลต่อการดูดซึมธาตุเหล็ก: ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดงและป้องกันภาวะโลหิตจาง แต่แทนนินในกาแฟสามารถจับตัวกับธาตุเหล็กชนิดที่ไม่ใช่ฮีม (Non-heme iron) ซึ่งพบมากในพืชผัก ธัญพืช และอาหารเสริม ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้ได้ การดื่มกาแฟพร้อมอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ผักโขม ถั่ว หรือธัญพืชเสริมธาตุเหล็ก อาจลดการดูดซึมธาตุเหล็กได้ถึง 39% เลยทีเดียว นี่คือสาเหตุว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟพร้อมมื้ออาหาร
ผลต่อการดูดซึมแคลเซียม: แม้ผลกระทบจะไม่รุนแรงเท่าธาตุเหล็ก แต่คาเฟอีนในกาแฟก็สามารถเพิ่มการขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะได้เล็กน้อย และอาจลดการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้ การบริโภคกาแฟในปริมาณมากเป็นประจำอาจส่งผลต่อความหนาแน่นของกระดูกในระยะยาว โดยเฉพาะในผู้ที่ได้รับแคลเซียมไม่เพียงพออยู่แล้ว
ผลต่อการดูดซึมสังกะสี: มีงานวิจัยบางชิ้นที่ชี้ให้เห็นว่าสารประกอบในกาแฟอาจมีผลต่อการดูดซึมสังกะสี ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันและการทำงานของเอนไซม์หลายชนิดในร่างกาย
ข้อควรปฏิบัติเพื่อสุขภาพที่ดี
เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากอาหารอย่างเต็มที่ และยังคงเพลิดเพลินกับกาแฟแก้วโปรดได้ ควรปฏิบัติดังนี้
เว้นระยะห่าง: ควรดื่มกาแฟอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนหรือหลัง มื้ออาหาร เพื่อให้ร่างกายมีเวลาดูดซึมสารอาหารจากอาหารให้ได้มากที่สุด
ดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ: การบริโภคคาเฟอีนในปริมาณมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม ไม่ใช่แค่เรื่องการดูดซึมสารอาหารเท่านั้น
เลือกอาหารที่มีธาตุเหล็กชนิดฮีม: ธาตุเหล็กชนิดฮีมที่พบในเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ จะไม่ได้รับผลกระทบจากสารแทนนินในกาแฟเท่ากับธาตุเหล็กชนิดที่ไม่ใช่ฮีม
เพิ่มวิตามินซี: วิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กชนิดที่ไม่ใช่ฮีมได้ หากจำเป็นต้องดื่มกาแฟใกล้กับมื้ออาหาร ลองรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูงร่วมด้วย เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ
ฟังร่างกายของคุณ: หากคุณรู้สึกไม่สบายท้องหรือมีปัญหาเรื่องการดูดซึมสารอาหาร ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสม
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มกาแฟเพียงเล็กน้อย ก็สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญต่อสุขภาพและการได้รับสารอาหารที่จำเป็นของร่างกายได้