จากคำพูดเล่น…ถึงคำทำร้าย บูลลี่หน้าตาไม่ใช่เรื่องขำ
แม้โลกจะก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการยอมรับในความหลากหลาย แต่ปัญหาการบูลลี่เรื่องหน้าตายังคงฝังรากลึกในสังคม พร้อมทิ้งบาดแผลทางใจให้เหยื่ออย่างไม่มีเสียง
ในยุคที่สื่อสังคมออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ปรากฏการณ์การ “บูลลี่หน้าตา” หรือการล้อเลียนรูปลักษณ์ยังคงเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะในโรงเรียน สถานที่ทำงาน หรือแม้แต่บนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะกับผู้ที่มีรูปลักษณ์แตกต่างจาก “มาตรฐานความงาม” ที่สังคมกำหนดไว้
นักจิตวิทยาชี้ว่า พฤติกรรมการ บูลลี่หน้าตา มักเกิดจากความไม่มั่นคงในตัวเองของผู้กระทำ ความพยายามที่จะยกตัวเองขึ้นโดยการลดคุณค่าผู้อื่น และการเลียนแบบพฤติกรรมที่เห็นว่าเป็นเรื่อง “ขำขัน” หรือ “เทรนด์”
จากคำพูดเล่น…ถึงคำทำร้าย บูลลี่หน้าตาไม่ใช่เรื่องขำ
“คนจำนวนมากไม่รู้ตัวว่าคำพูดที่คิดว่าแค่ล้อเล่น กลับเป็นบาดแผลฝังลึกในจิตใจของผู้ฟัง” นักจิตวิทยาสังคมกล่าว พร้อมเสริมว่า บางรายถึงขั้นเกิด ภาวะซึมเศร้า ความเครียดเรื้อรัง และ การเกลียดตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น สื่อในกระแสหลักยังมีบทบาทสำคัญในการตอกย้ำภาพจำว่า “ความสวย ความหล่อ” ต้องเป็นไปตามแบบแผนบางอย่าง เช่น ผิวขาว จมูกโด่ง รูปร่างผอมสูง เป็นต้น ทำให้ผู้ที่มีรูปลักษณ์ต่างจากภาพเหล่านี้ถูกกดทับทางสังคมและกลายเป็นเป้าโจมตี
จากคำพูดเล่น…ถึงคำทำร้าย บูลลี่หน้าตาไม่ใช่เรื่องขำ
ขณะที่บางกลุ่มเริ่มลุกขึ้นมารณรงค์ให้เกิดการ “ยอมรับในความหลากหลาย” และส่งเสริมแนวคิด “หน้าตาไม่ใช่ตัวตัดสินคุณค่าของคน” แต่การเปลี่ยนทัศนคติสังคมยังต้องอาศัยเวลา ความร่วมมือจากหลายฝ่าย และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจากการล้อเลียนและเหยียดรูปลักษณ์
สุดท้าย การรับมือกับการบูลลี่ไม่ใช่หน้าที่ของเหยื่อเพียงลำพัง แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคนในสังคม
