thainewsonline

มือปราบทุเรียนเถื่อน 600 ไร่ โดนย้ายด่วน หลังลุยจับทุนจีน

18 พฤษภาคม 2568
มือปราบทุเรียนเถื่อน 600 ไร่ โดนย้ายด่วน หลังลุยจับทุนจีน

ปลัด ทส. สั่งย้าย ทสจ.ฉะเชิงเทรา ที่กำลังลุยจับคดีทุนจีนบุกรุกป่าสงวนปลูกทุเรียน 600 ไร่ ไปเป็น ทสจ.พิษณุโลก

มือปราบทุเรียนเถื่อน” 600 ไร่ โดนย้ายด่วน หลังลุยจับทุนจีน ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งย้าย ทสจ.ฉะเชิงเทรา คนที่ลุยตรวจสอบ - จับคดี ทุนจีนรุกป่าสงวนปลูกทุเรียน ที่ ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ ไปนั่ง ทสจ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2568 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามคำสั่งที่ 158/2568 ลงวันที่ 15 พ.ค.2568 ย้ายข้าราชการ ตำแหน่งอำนวยการสูง (ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด) จำนวน 3 คน และคำสั่งที่ 157/2568 ลงวันที่ 15 พ.ค.2568 โอนข้าราชการตำแหน่งอำนวยการสูง จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดราชบุรี ไปเป็น ผอ.ส่วนจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 จำนวน 1 คน

 

มือปราบทุเรียนเถื่อน 600 ไร่ โดนย้ายด่วน หลังลุยจับทุนจีน มือปราบทุเรียนเถื่อน 600 ไร่ โดนย้ายด่วน หลังลุยจับทุนจีน

ที่น่าสนใจคือการย้ายสลับกันสามคนในตำแหน่ง ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ผอ.ทสจ.) ปรากฏชื่อ นายพัชร์ภารุจ สุคนธร ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา ไปเป็น ผอ. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก และผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก ไปเป็น ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำพูน และให้ ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำพูนไป จ.ฉะเชิงเทรา

 

มือปราบทุเรียนเถื่อน 600 ไร่ โดนย้ายด่วน หลังลุยจับทุนจีน มือปราบทุเรียนเถื่อน 600 ไร่ โดนย้ายด่วน หลังลุยจับทุนจีน

นายพัชร์ภารุจ สุคนธร ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา คือ บุคคลที่ตรวจสอบพบความผิดปกติการขอใช้ที่ดินรัฐ โดยพบว่า ที่ดินกรมป่าไม้ที่เอกชนขอใช้ประโยชน์มีการเปลี่ยนมือไปสู่บริษัทกลุ่มคนไทยและคนจีนและเข้ามาทำสวนทุเรียนในพื้นที่เขตป่า และเมื่อตรวจสอบภายหลังพบว่าเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ รวมถึงนายทุนคนไทยและคนจีน กลับมีชื่อปรากฏครอบครองที่ คทช. โดยพบว่า มีการใช้ชื่อบุคคลจาก จ.จันทบุรี และตราด มาแอบอ้างในการถือครอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่าคนที่มีชื่อถือครองที่ดังกล่าวเข้ามาทำประโยชน์จริง ทำให้นายพัชร์ภารุจ ทำหนังสือรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เพื่อขอให้ ยกเลิกที่ คทช. ดังกล่าว เพราะใช้ผิดวัตถุประสงค์


จากนั้น นายพัชร์ภารุจ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ อายัด และจับกุมผู้ที่เข้ามาครอบครองที่ป่าสงวนแห่งชาติ และที่ คทช. รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดกับที่ดินแปลงดังกล่าวมากกว่า 600 ไร่


ก่อนหน้ามีคำสั่งย้าย นายพัชร์ภารุจ ทราบล่วงหน้า และได้แจ้งว่าหากจะมีการย้ายตนเองขอให้อยู่ในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล


ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ส่งเจ้าหน้าที่มาสอบปากคำนายพัชร์ภารุจ หลังรับเป็นคดีพิเศษเกี่ยวกับทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากพบว่าบริษัทดังกล่าวมีพฤติกรรมเดียวกับที่ จ.ฉะเชิงเทรา ด้วยการเข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ในรูปแบบบริษัทชื่อเดียวกันอีก 6-7 จังหวัด

 

Thailand Web Stat