แฉ กลโกงมิจฉาชีพ หลอกหนุ่มวิศวะ สูญเกือบ 10 ล้าน โอนยับ 11 ครั้ง

วิศวกรหนุ่มตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกบังคับให้สนทนาทางโทรศัพท์ตลอด 7 วัน 7 คืน โดยไม่รู้ตัวว่านี่คือกลโกงของมิจฉาชีพ ส่งผลให้สูญเงินไปกว่า 8.5 ล้านบาท ผู้ก่อเหตุแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และใช้การข่มขู่สร้างความหวาดกลัว จนเหยื่อต้องทำตามทุกอย่าง กระทั่งวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ดร.ศิวัช ได้พาผู้เสียหายเข้าร้องเรียนต่อองค์กร “สายไหมต้องรอด”

เปิดแผนหลอกลวงของมิจฉาชีพ วิศวกรหนุ่มสูญเงินกว่า 8 ล้านบาท

นายศิวัช วิศวกรหนุ่ม เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา เขาได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยอ้างว่าเขาเกี่ยวข้องกับคดีเปิดบัญชีม้า จากนั้นปลายสายขอให้เขาเพิ่มเพื่อนทางไลน์ และเปิดกล้องเพื่อสื่อสาร พร้อมส่งเอกสารแสดงการอายัดทรัพย์ และแจ้งให้โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน

ปลายสายยังขอให้นายศิวัชอยู่ในสถานที่ส่วนตัว ไม่ให้บุคคลอื่นร่วมฟังการสนทนา โดยข่มขู่ว่าหากไม่ปฏิบัติตาม จะถูกอายัดทรัพย์สินทั้งของตนเองและคนในครอบครัว ทำให้นายศิวัชเกิดความหวาดกลัวและยอมทำตามคำสั่ง

รูปแบบของการหลอกลวงเริ่มจากการพูดคุยกับหญิงสาวรายหนึ่ง ก่อนจะถูกโอนสายไปยังบุคคลอื่นๆ ต่อเนื่องกัน โดยตลอดการสนทนา ถูกสั่งให้ถือสายไว้ตลอดเวลาเป็นระยะถึง 7 วัน 7 คืน โดยห้ามวางสาย และต้องทยอยโอนเงินไปยังบัญชีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

• นายศิวัชเผยว่า ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว เขาได้โอนเงินไปทั้งหมด 11 ครั้ง รวมเป็นเงิน 8,465,084 บาท ผ่านบัญชี 5 บัญชีจาก 4 ธนาคาร

นอกจากนี้ ยังมีการสั่งให้นายศิวัชเดินทางไปยังจังหวัดหาดใหญ่เพื่อนำสลากออมสินไปเปลี่ยนเป็นเงินสดแล้วโอนให้กลุ่มคนร้ายอีกด้วย โดยตลอดการเดินทาง เขายังคงถูกสั่งให้ค้างสายอยู่ตลอด ยกเว้นช่วงที่ขึ้นเครื่องบินซึ่งสัญญาณขาดหาย แต่ก็ยังต้องรายงานความเคลื่อนไหวทุกครั้งที่เดินทาง

เมื่อสอบถามว่าทำไมถึงไม่เอะใจถึงพฤติกรรมดังกล่าว นายศิวัช บอกว่า ปนไปอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศเป็นเวลา 9 ปี ซึ่งไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนกระทั่งกลับมามาถึงที่ประเทศไทยและอาศัยอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ปี ก็พบว่าตลอดระยะเวลาที่อาศัยในประเทศไทยนั้น ก็มีเบอร์มิจฉาชีพโทรเข้ามาอยู่บ่อยครั้ง แต่ตนก็จับได้ทุกครั้งแต่ในครั้งนี้กลับมีความแนบเนียนในการหลอกลวง และด้วยความกลัวตนจึงต้องทำตามอีกฝ่ายที่ได้ข่มขู่มา

ยังโชคดีที่คอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้พยายามจะให้ตนนำโฉนดคอนโดมูลค่ากว่า 7 ล้านบาทไปจำนองเพื่อนำเงินโอนไปให้ แต่การจำนองไม่ผ่านปลายทาง จึงไม่ต้องการอีกต่อไป