5 วิธีดูรถยนต์มือสองก่อนตัดสินใจ แบบไหนที่ชนหนักจนต้องเลี่ยง

การซื้อรถมือสองเป็นทางเลือกที่ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่ารถใหม่ป้ายแดง แต่ก็มีความเสี่ยงแฝงอยู่ โดยเฉพาะการเจอรถที่เคยประสบอุบัติเหตุชนหนักแล้วถูกซ่อมแซมเพื่อนำมาขายใหม่ การรู้วิธีตรวจสอบเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ วันนี้เราจะพามาดู 5 วิธีดูรถมือสองแบบง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณสังเกตเห็นสัญญาณอันตราย และหลีกเลี่ยงรถที่อาจมีปัญหาซ่อนอยู่ได้

• จะซื้อรถมือสองทำไมต้องเช็กให้ดี 

รถยนต์ที่เคยผ่านการชนหนักมา แม้ว่าจะได้รับการซ่อมแซมภายนอกให้ดูดีแล้ว แต่โครงสร้างภายในอาจได้รับความเสียหายอย่างถาวร ซึ่งส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่ ความสมดุลของตัวรถ และที่สำคัญคือความปลอดภัย การซื้อรถประเภทนี้มาใช้งานอาจนำไปสู่ค่าซ่อมบำรุงที่บานปลายในอนาคต หรือเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น การตรวจสภาพรถมือสองอย่างละเอียดจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

• 5 จุดสำคัญในการตรวจสภาพรถมือสอง เพื่อดูร่องรอยชนหนัก

การสังเกตด้วยตาเปล่าในจุดสำคัญต่างๆ และการทดลองขับ สามารถช่วยให้เราเห็นสัญญาณเตือนของรถที่อาจเคยชนหนักมาก่อนได้ ลองใช้ 5 วิธีดูรถมือสองเหล่านี้เป็นแนวทางหลักในการตรวจสอบเบื้องต้นก่อนตัดสินใจซื้อรถมือสอง

1. โครงสร้างตัวถังและตะเข็บ
จุดที่บ่งบอกการชนหนักได้ดีที่สุดคือโครงสร้างหลักของรถ ลองเปิดฝากระโปรงหน้า-หลัง และประตูทุกบาน สังเกตแนวตะเข็บ รอยพับ หรือรอยอาร์ค (จุดเชื่อมโลหะกลมๆ) จากโรงงาน หากพบว่ารอยเหล่านี้หายไป มีลักษณะบิดเบี้ยวไม่สม่ำเสมอ มีรอยเชื่อมหรือโป๊วสีใหม่ หรือช่องว่างระหว่างประตูไม่เท่ากัน อาจเป็นสัญญาณว่ารถเคยโดนชนจนเสียรูปทรงและต้องซ่อมแซมโครงสร้างมา

2. สภาพสีและความเรียบร้อยภายนอก
วิธีดูรถมือสองที่ง่ายที่สุดคือการดูสีรอบคัน ควรดูในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ สังเกตว่าสีมีความสม่ำเสมอทั่วทั้งคันหรือไม่ หากมีส่วนใดส่วนหนึ่งมีสีเพี้ยน ความเงางามต่างจากจุดอื่น หรือมีละอองสีปลิวไปติดขอบยาง ขอบกระจก หรือชิ้นส่วนพลาสติก แสดงว่าอาจมีการทำสีใหม่ ซึ่งอาจเกิดจากการชน หรือซ่อมแซมส่วนนั้นๆ การตรวจสภาพรถมือสองเรื่องสีช่วยบอกอะไรได้เยอะ

3. ห้องเครื่องยนต์และใต้ท้องรถ
เปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อตรวจสภาพรถมือสองในห้องเครื่อง ดูว่าคานหน้ามีร่องรอยการซ่อมแซม ดัดแปลง หรือทำสีใหม่หรือไม่ มีคราบน้ำมันเครื่องหรือของเหลวอื่น ๆ รั่วซึมตามจุดต่างๆ หรือเปล่า จากนั้นลองก้มดูใต้ท้องรถ หากพบร่องรอยความเสียหาย รอยบุบ รอยเชื่อมใหม่ หรือมีสนิมผุมากผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของรถที่เคยชนหนักจากด้านหน้าหรือใต้ท้อง หรืออาจเคยจมน้ำมาก่อน

 4. การทำงานของระบบหลักขับเคลื่อน

การทดลองขับเป็นวิธีดูรถมือสองที่ขาดไม่ได้ ลองสตาร์ทเครื่องยนต์ ฟังเสียงว่าราบเรียบหรือมีเสียงผิดปกติหรือไม่ ทดลองเข้าเกียร์ทุกตำแหน่ง (ทั้งเกียร์ออโต้และธรรมดา) ว่าเปลี่ยนได้นุ่มนวล ไม่กระตุก ลองขับขี่ในความเร็วต่าง ๆ ฟังเสียงช่วงล่างเวลาเจอทางขรุขระ หรือตอนเลี้ยว ว่ามีเสียงดังผิดปกติไหม หากระบบใดทำงานไม่สมบูรณ์ อาจเป็นผลจากการชนหนัก

5. เอกสารและประวัติรถ

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คือการตรวจสอบเอกสารสำคัญ โดยเฉพาะเล่มทะเบียนรถ ดูชื่อผู้ครอบครอง ลำดับการโอนว่ามีการเปลี่ยนมือบ่อยผิดปกติหรือไม่ ตรวจสอบหมายเลขตัวถังและหมายเลขเครื่องยนต์ว่าตรงกับในเล่มหรือไม่ หากเป็นไปได้ ลองสอบถามประวัติการเข้าศูนย์บริการหรือการเคลมประกัน ซึ่งอาจช่วยให้ทราบประวัติการซ่อมหรืออุบัติเหตุได้ การตรวจสอบเอกสารจึงเป็นส่วนสำคัญในการซื้อรถมือสอง

• สัญญาณเตือนอื่น ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

นอกจากการตรวจสภาพรถมือสองใน 5 จุดหลักแล้ว ยังมีข้อสังเกตอื่น ๆ ที่อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติได้ เช่น อะไหล่บางชิ้น เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย กระจังหน้า ดูใหม่กว่าส่วนอื่น ๆ อย่างชัดเจน มีเสียงลมเข้าห้องโดยสารดังผิดปกติขณะขับขี่ ช่องว่างระหว่างกันชนกับตัวถังไม่สม่ำเสมอ หรือภายในรถมีกลิ่นอับชื้นรุนแรง สัญญาณเหล่านี้ควรนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อรถมือสองเช่นกัน

การซื้อรถมือสองต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบในการตรวจสอบ เพื่อให้ได้รถที่คุ้มค่าและปลอดภัย การใช้ 5 วิธีดูรถมือสองที่เน้นการหาร่องรอยการชนหนัก จะช่วยให้คุณสามารถประเมินสภาพรถเบื้องต้นและหลีกเลี่ยงรถที่มีปัญหาใหญ่ได้ แต่หากคุณมีปัญหาต้องการใช้เงิน สามารถนำรถยนต์มารีไฟแนนซ์ เพื่อรถภาระค่างวดได้ สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ จากทิสโก้ ออโต้แคช พร้อมช่วยเหลือเงินก้อนให้กับคุณ ด้วยวงเงินสูงสุด 100% ผ่อนนานถึง 72 เดือน ไม่ต้องโอนเล่ม และสามารถปิดบัญชีก่อนกำหนดได้โดยไม่มีค่าปรับ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-123-4000 หรือ LINE: @TISCOAutoCash

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว | อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% - 24%  ต่อปี

เงื่อนไขและการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด