จากกรณีที่เพจ "อีซ้อขยี้ข่าว" รายงานว่า พบร่างของ "น้องโฟกัส" นักเรียนชั้น ม.6 เสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนาริมถนนในพื้นที่ อ.หันคา จ.ชัยนาท จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากที่น้องโฟกัสทะเลาะกับแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นลูกชายนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัด โดยน้องโฟกัสได้ขอเลิกกับแฟนหนุ่ม ก่อนที่จะหายตัวไปและขาดการติดต่อกับทางญาติ ทั้งที่วันดังกล่าวเป็นวันรับวุฒิการศึกษาจบมัธยมปลาย แต่น้องกลับไม่ได้มาร่วมงานที่โรงเรียน
จากการสอบสวนพบว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ณัฐนิชา (สงวนนามสกุล) หรือ "น้องโฟกัส" อายุ 19 ปี ถูก นายนพณัฐ (สงวนนามสกุล) หรือ "แฟรงค์" อายุ 19 ปี ลูกบุญธรรมของอดีตสจ.คนดัง จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของน้องโฟกัส ทำร้ายก่อนนำร่างไปทิ้งในทุ่งนาในพื้นที่ ม.6 ต.หันคา อ.หันคา จ.ชัยนาท หลังจากเกิดเหตุที่บ้านของผู้ก่อเหตุ
หลังจากการจับกุมตัว นายนพณัฐ หรือ "แฟรงค์" เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้ต้องหามีท่าทีไร้ความกังวล โดยเดินไปมาและนั่งๆ นอนๆ แต่เมื่อเห็นผู้สื่อข่าวกำลังถ่ายภาพ เขาก็ลุกหนีไปที่มุมห้องขัง ก่อนหน้านี้ นายนพณัฐได้ให้การรับสารภาพว่า ลงมือทำร้ายเพราะหึงหวงและรักมาก พร้อมบอกว่าในขณะนั้นมึนเมาจึงลงมือไปอย่างไม่ยั้งคิด
นายนพณัฐเล่าถึงเหตุการณ์ว่า พบว่าน้องโฟกัสแอบคุยและมีสัมพันธ์กับเพื่อนของตน จึงเกิดการทะเลาะกันระหว่างทางกลับบ้าน หลังจากนัดกันไปกินหมูกระทะ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ตนโมโหจึงชกน้องจนล้มแล้วเตะซ้ำจนแน่นิ่ง ตอนแรกคิดจะเอาร่างน้องใส่รถไปทิ้งที่อื่น แต่กลัวคนเห็น จึงลากร่างไปทิ้งข้างทาง ก่อนจะกลับบ้านและหลังจากนั้นไม่นาน ตนมั่นใจว่าน้องเสียชีวิตแล้ว จึงไม่คิดที่จะทำอะไรต่อไป
ตามรายงานระบุว่า ขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนั้น พ่อของนายแฟรงค์ ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ได้พยายามชี้แจงกับตำรวจว่าไม่เชื่อในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบอกว่าลูกชายเป็นเด็กดี ขณะที่คุณย่าของน้องโฟกัสได้เปิดเผยว่า นายแฟรงค์มักจะมาอาละวาดที่บ้านบ่อยครั้ง ขว้างบ้านและทุบกระจกรถ จนที่บ้านเริ่มเอือมระอา โดยระบุว่า หากนายแฟรงค์มาขอขมาศพก็จะไม่ให้อภัย และอยากให้ประหารชีวิตไปเลย
พ.ต.อ.ธนกฤต รวยอารี ผกก.สภ.หันคา กล่าวว่า แม้ว่าผู้ต้องหาจะเป็นลูกนักการเมือง แต่ตำรวจไม่รู้สึกหนักใจ เพราะคดีนี้ไม่ซับซ้อนและผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา พร้อมขอให้มั่นใจได้ว่าผู้เสียชีวิตจะได้รับความยุติธรรม โดยจากการสอบสวนทราบว่า เหตุจูงใจในการลงมือสังหารมาจากความหึงหวง และมีปัญหาทะเลาะกันมาตลอด ซึ่งผู้ต้องหาก็ยอมรับว่าเป็นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้